หนังสือพิมพ์เดอะเดลี่เทเลกราฟรายงานว่า แพทย์ผิวหนังชื่อดังของประเทศอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรอยเหี่ยวย่อนตามวัยที่ได้ผลดีที่สุด คือครีมกันแดดนั่นเอง ซึ่งพบด้วยว่าดีกว่าครีมต้านรอยเหี่ยวย่นประสิทธิภาพสูงเสียอีก โดยแพทย์ท่านนี้แนะนำว่าหากใครกลัวการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่อนให้ทาครีมกันแดดเป็นประจำดีกว่า
ศาสตราจารย์ คริส กริฟฟิธส์ ซึ่งเป็นแพทย์ผิวหนังจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ยังได้กล่าวเตือนเกี่ยวกับการใช้ครีมต้านริ้วรอยหลายชนิดร่วมกันด้วยว่าอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งนั่นเป็นเพราะว่ายังไม่เคยมีใครทำการทดสอบผลของครีมต้านริ้วรอยหลายสูตรร่วมกันอย่างเหมาะสมมาก่อน
“ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดสำหรับต้านริ้วรอยส่วนใหญ่ ทำขึ้นมาเพื่อช่วยต่อต้านรอยเหี่ยวย่นจากการถูกแสงแดด ไม่ใช่เพื่อต้านริ้วรอยแห่งวัย ฉะนั้นหากให้ผมเลือกผลิตภัณฑ์แค่อันเดียวผมก็จะเลือกครีมกันแดดแน่นอน” ศาสตราจารย์กริฟฟิธส์กล่าว
สำหรับศาสตราจารย์กริฟฟิธส์นั้นเมื่อปีที่แล้วเขาคือคนที่ทำให้ผู้หญิงอังกฤษนับแสน ๆ คนกรูกันไปซื้อผลิตภัณฑ์หนึ่งของร้านบู๊ทส์ซึ่งมีชื่อว่า โพรเทคแอนด์เพอร์เฟคบิวตี้ซีรั่ม โดยเมื่อครั้งนั้นศาสตราจารย์ท่านนี้ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลการวิจัยของเขาเองที่พบว่าผลิตนี้ใช้ได้ผลดี ยังผลครีมทาหน้าชนิดนี้ขายเกลี้ยงจนหมดทุกสาขาของร้านบู๊ทส์ในประเทศอังกฤษถึงขนาดไม่มีของขาดตลาดกันเลยทีเดียว
และในการกล่าวในงานแถลงข่าวล่าสุดเมื่อวันพุธในกรุงลอนดอน ศาสตราจารย์กริฟฟิธส์กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วริ้วรอยเหี่ยวย่นที่มองเห็นได้ชัด อันได้แก่ รอยย่นที่หน้าผาก และรอยตีนกา รอบ ๆ ดวงตา เกิดจากผลของแสงแดดทั้งนั้น ซึ่งถ้าหากว่าผิวหนังคนเราไม่ถูกแดดทำลายเลยเราจะไม่มีรอยเหี่ยวย่นแบบลึกเลยจนเมื่ออายุได้ 80 ปีกว่า ๆ ไปแล้ว
นอกจากนี้ศาสตราจารย์กริฟฟิธส์ยังได้เน้นย้ำถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิดร่วมกันเพราะในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดนั้นมักจะถูกทดสอบเพียงเดี่ยวๆ จึงทำให้แทบจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหากนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้หลาย ๆชนิดมาใช้ร่วมกันแล้วจะก่อให้เกิดผลเสียหรืออันตรายอะไรได้บ้าง
ทั้งนี้การนำครีมหลายชนิดมาใช้ร่วมกันอาจทำให้ผู้ใช้ได้รับสารประกอบชนิดเดียวกันที่เป็นที่นิยมใช้ทำครีมหลายๆ ชนิดในปริมาณที่มากจนเกินไปจนอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรงหรืออาจร้ายแรงกว่านั้นหากการใช้ครีมหลายอย่างร่วมกันไปมีผลทำให้ร่างกายได้รับสารเคมีที่ความไวต่อการเกิดปฏิกิริยาตบสนองของร่างกาย
#news#
ด้านนายแพทย์ คริสโตเฟอร์ ฟลาเวอร์ จากสมาคม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำและน้ำหอม ซึ่งเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมผลิตครีมบำรุงผิวกล่าวตอบโต้ความเห็นของศาสตราจารย์กริฟฟิธส์ว่ าปัญหาที่อาจเกิดจากการนำผลิตภัณฑ์หลายชนิดมาใช้ร่วมกันนั้นอันที่จริงแล้วก็ได้มีการทดสอบกันมาระดับหนึ่ง ก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ตัวใดๆ ออกมาจำหน่ายแล้ว โดยผู้ผลิตได้นำเครื่องสำอางใหม่ไปให้คนลองใช้ในชีวิตประจำวันก่อน เพื่อทดสอบดูผลของผลิตภัณฑ์ในแต่ละวันที่ใช้ว่าเป็นอย่างไร
สำหรับตลาดของครีมต้านริ้วรอยประสิทธิภาพสูงที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลาย ๆ อย่างนั้นพบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้มีมูลค่าเกิน 100 ล้านปอนด์ และจากการวิจัยพบว่าตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทนี้จะโตขึ้นไปอีกเท่าตัวในอีก 5 ปีข้างหน้า