มีไหมคะที่วันตื่นขึ้นมาอะไรๆ มันก็ไม่ได้ดั่งใจ ไหนจะตื่นสาย รถก็ติดอีก หงุดหงิดไปซะทุกสิ่ง แม้กระทั่งตัวเอง ทำให้พาลโมโหไปซะทุกอย่าง อะไรๆ มันก็ไม่ใช่ๆ โอ๊ยยย... อารมณ์เสียยยยยยยย
เมื่อหงุดหงิดก็พาลใส่คนรอบข้างให้วุ่นวายไปหมด ทั้งคนที่บ้าน ที่ทำงาน บ้างครั้งก็พาลไปถึงน้องหมาน้องแมวก็พลอยโดนลูกหลงไปด้วย
เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ตลอดล่ะค่ะ โดยเฉพาะวันที่มัน “ไม่ใช่วันของเรา” ที่ดูเหมือนว่าโชคร้ายจะหล่นทับเราตั้งแต่เช้า อาการวีนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก บางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย บางคนเป็นบ่อย แต่บางคนเป็นบ่อยมากกก จนทำให้อาการวีนกลายเป็นนิสัยขี้วีนไปแล้ว
Chic Recommends:
แน่นอนว่าคนขี้วีนใครๆก็ไม่อยากอยู่ใกล้ มันให้ความรู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาจากร่าง กลายเป็นเกราะป้องกัน (คนอื่น) ให้หนีหายออกไปจากคุณเสียหมด ก่อนที่จะกลายเป็นสาวขี้วีน เราลองมาเช็คกันดูหน่อยดีกว่าว่า เราเป็นคนขี้วีน (เกินไป) รึเปล่านะ?
โกรธได้…ไม่ผิด
โกรธ และโมโห เป็นอาการแสดงออกเมื่อมีเรื่องให้คับข้องใจ ขัดเคืองใจ ซึ่งมักประกอบด้วย “เหตุ” และ “ผล” ที่มันไม่ใช่ดังที่เราคาดหวัง ส่วนอาการ “วีน” มันเกิดเมื่อ “ไม่ได้ดั่งใจ” ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า เพราะฉะนั้น ก่อนจะแสดงคุณต้องตั้งสติก่อนว่า “ต้นเรื่อง” นั้นมีเหตุผลที่จะโกรธหรือไม่ เรื่องนั้นเสียหายมากแค่ไหน แก้ไขได้ไหม
เรื่อง (ไม่) เป็นเรื่อง
เมื่อคุณเกิดอาการ “วีน” ให้ลองกลับมาคิดว่า
เรื่องที่เกิดเป็นเรื่องใหญ่โตกระทบกับชีวิตมากไหม???
หรือเป็นแค่เรื่องไม่ได้ดั่งใจเฉยๆ ???
ถ้าเป็นเรื่องที่กระทบต่อหน้าที่การงาน ครอบครัวหรือคนรอบข้าง อันนั้นพอให้อภัย แต่ถ้าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้ส่งผลอะไรกับชีวิตมาก เช่น พนักงานหยิบของมาให้ผิด ลูกน้องส่งอีเมลให้ช้า เพื่อนพูดจาไม่เข้าหู สิ่งเหล่านี้ถ้าคุณแสดงออกว่าโกรธบ่อย อาจเป็นได้ว่าอาการวีนเริ่มเข้าฝังเป็นนิสัยคุณไปแล้ว
(ช่วง) เวลาวีน
ลองสังเกตตัวเองสักนิดว่าคุณรู้สึกหงุดหงิดจนต้องวีนในช่วงไหน บางคนหงุดหงิดการจราจรรถติดตอนเช้า เช้ามาออฟฟิศเจอใครทำอะไรไม่ถูกใจนิดก็วีนแตก บางคนวีนช่วงบ่ายๆ เพราะทั้งลูกน้อง เพื่อนร่วมงานอะไรๆ ก็ไม่ได้ดั่งใจ บางคนวีนช่วงเย็น กลับบ้านไปคนที่บ้านต้องหลบกันเป็นแถว ถ้าวีนเป็นช่วงๆ แบบนี้ยังพอมีทางออก เพราะยังหาสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร คงไม่มีอะไรหรือใครที่จะไม่ได้ดั่งใจไปเสียทุกวัน หากคุณมักมีอาการวีนตอนเช้า เพราะเบื่อรถติดลองตื่นเช้าสักนิด หรือหาเส้นทางใหม่ๆ ถ้าเอาขับรถแล้วไปทำงานสายทุกวัน ก็ลองพึ่งการสัญจรแบบอื่นดูบ้าง หรือวีนช่วงเย็นเพราะกลับไปที่บ้านไม่ถูกใจอะไรสักสิ่ง ก็ลองนิ่งๆ แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ลองเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารบ้าง เพราะว่าถ้าหากบ่นแล้วไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น การหยุดพูดก็เป็นอีกวิธีที่น่าลอง
ยิ่งเตือนยิ่งวีน
อาการแบบนี้คลายกับเด็กๆ ที่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คนขี้วีนส่วนใหญ่ยิ่งมีคนเตือนว่า “ขี้วีนไปแล้วนะ” มักจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ดีกรีความขี้วีนสูงปรี๊ดเพิ่มอีกเท่าตัว โดยเฉพาะคนเตือนมักไม่รอด โดนวีนอย่างแรงไปเต็มๆ ถ้าคุณมีอาการแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยได้รับตำแหน่งสาวขี้วีนไปเต็มๆ
ถ้าขี้วีน (เกิน) ไป จะทำยังไงดี???
เราไม่อาจบังคับเรื่องราวไม่ได้ดั่งใจให้ไม่เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเราต้องปรับที่ตัวเราก่อน ก่อนจะโกรธ ให้ลองนิ่ง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วคิดว่า “แค่นี้เอง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” หัดที่จะมองปัญหาทุกอย่างให้เป็นเรื่องเล็กและมีทางออกเสมอ
ช่วงเริ่มต้นอาจจะทำไม่ได้ทั้งหมด อาการขี้วีนอาจจะหลงเหลือมาบ้าง แต่ขอให้พยายามค่ะ ถ้าตั้งสติได้
by Daaw Chonlada
ข้อมูลจาก http://www.chicministry.com