นักเคลื่อนไหวประณามนโยบายออสเตรเลียต้นเหตุเรือผู้ขอลี้ภัยอัปปางนอกชายฝั่งอินโดนีเซีย-หวั่นจมน้ำตาย 240 คน
เรือไฟเบอร์กลาสส์ ซึ่งบรรทุกผู้ขอลี้ภัยราว 250 คนส่วนใหญ่เป็นชาวอัฟกานิสถานและอิหร่าน ที่คาดว่ากำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะคริสต์มาส เกาะในมหาสมุทรอินเดียของออสเตรเลีย ประสบเหตุอัปปางใกล้ชายฝั่ง จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันเสาร์ (17ธ.ค.)โดยผ่านไปหนึ่งวัน พบผู้รอดชีวิตเพียง 33 คนเท่านั้น ไม่มีวี่แววว่าจะพบผู้สูญหายอีกกว่า 200 คน ในจำนวนนี้มีเด็กอยู่ด้วย 40 คน ขณะที่การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะสภาพอากาศเลวร้าย คลื่นลมแปรปรวน ทะเลมีคลื่นสูงถึง 4 เมตร
สาเหตุของเรือพลิกคว่ำ เกิดจากการบรรทุกผู้โดยสารเกินอัตราถึง 2 เท่า ผู้รอดชีวิต เล่าว่า บนเรือแน่นมาก พอเรือเริ่มโคลงเคลง เกิดการตื่นตระหนกขึ้น ทำให้เรือจมลงในที่สุด
ด้านนายเจสัน แคลร์ รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรเลีย กล่าวว่า เป็นโศกนาฏกรรมอันน่าสลดใจ พร้อมเสนอส่งเครื่องบินตรวจการณ์โอเรียนช่วยค้นหาผู้สูญหาย แต่ปฏิเสธที่จะบอกว่าออสเตรเลีย รู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับเรือลำนี้ก่อนประสบโศกนาฏกรรมหรือไม่ และไม่ตอบคำถามว่านโยบายสกัดว่าที่ผู้ขอลี้ภัยก่อนขึ้นฝั่ง มีส่วนหรือไม่ โดยนายแคลร์อ้างว่าจะไม่แสดงความเห็นในเรื่องข่าวกรอง
ขณะที่นายเอียน รินโทล ผู้ประสานงานแนวร่วมผู้ลี้ภัย กล่าวว่า ความสงสารเห็นใจจากรัฐบาลหรือฝ่ายค้านออสเตรเลีย ต่อผู้เสียชีวิต เท่ากับปากว่าตาขยิบ ตราบใดที่ออสเตรเลียยังไม่ยอมดำเนินนโยบายผู้อพยพอย่างมีมนุษยธรรม ออสเตรเลียควรรับผู้ขอลี้ภัยจากภูมิภาคเหล่านี้เพิ่มขึ้น และยุติการบังคับกักกัน แทนที่จะขัดขวางไม่ให้ผู้อพยพเข้าประเทศและส่งกลับ หรือส่งต่อไปยังประเทศอื่นแทน
