สาวๆส่วนมาก เกือบ 100% ที่รักสวยรักงาม ประโคม ประเคมของดีๆ แพงๆให้ใบหน้าและผิวพรรณได้รับสารบำรุงกัน แต่!อย่าลิมนะจ๊ะว่ามาก้กินความพอดีไปมันก็ไม่ใช่เรื่องเท่าไหร่ ลองหันมาดูแลในด้านอื่นๆดูกันบ้างดีกว่า ^^
1.อย่าทำความสะอาดผิวจนรู้สึกฝืด
การทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างแน่นอน แต่การทำความสะอาดผิวพร้อมกับการขัดถูผิวอย่างรุนแรงเกินไป การล้างหน้าวันละหลายครั้ง การใช้เคลนเซอร์ที่ “ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก” อาจทำให้ผิวของคุณแห้งตึงหรือแตกลอกได้ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังบอกว่าการทำความสะอาดผิวมากเกินไปอาจทำให้ผิวที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวได้ง่ายแย่ลงไปอีก เนื่องจากต่อมน้ำมันในผิวถูกกระตุ้นให้ทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยกับน้ำมันที่ถูกกำจัดออกไป ผลก็คือผิวที่มันขึ้นและอุดตันรูขุมขนมากขึ้น
2. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดเอเอชเอมากเกินไป
เอเอชเออาจทำสิ่งดี ๆ ให้ผิว แต่ก็อาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณได้ถ้าใช้มากจนเกินไป ผู้หญิงที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีกรดเอเอชเอความเข้มข้นสูง ๆ เสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคืองต่อผิว และยังทำให้ผิวไวต่อการไหม้แดดมากขึ้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอเอชเอต่ำ ๆ อย่างเช่น 2 เปอร์เซ็นต์ จะปลอดภัยมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอเอชเอสูงถึง 4 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น ถ้าคุณยังใหม่ต่อการใช้เอเอชเอ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอเอชเอเพียงชิ้นเดียว และใช้เพียงวันละครั้ง และอย่าลืมใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวทุกครั้งด้วย
3. อย่าขัดผิวมากเกินไป
การขัดลอกผิวเพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผิวของคุณดูสดใสขึ้น แต่การใช้สครับที่มีเม็ดขัดหยาบกร้านหรือการใช้ใยบวบเพื่อขัดหน้า รวมถึงการใช้สครับที่ใช้สำหรับผิวกายกับผิวหน้า มีแต่จะทำให้ผิวของคุณแย่ลง และถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอยู่แล้ว เช่น เรติโนอิดส์หรือเอเอชเอ ก็ยิ่งจะต้องระวังมากขึ้นไปอีก เพราะมันอาจขัดลอกผิวที่มากจนเกินไปและทำให้ผิวระคายเคืองได้ สครับแบบมีเม็ดขัดควรใช้เพียงหนึ่ง หรือสองครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น และไม่ควรใช้อย่างยิ่ง ถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเอเอชเออยู่แล้ว
4. อย่าพึ่งพาเพียงแค่สารกันแดดในเครื่องสำอาง
เดี๋ยวนี้เครื่องสำอางหลายชนิดต่างผสมสารกันแดดลงไปด้วย จนทำให้ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้เครื่องสำอางแบบนี้ งดการใช้ครีมกันแดดไปโดยปริยาย แต่ในความเป็นจริง คุณสามารถไว้ใจในประสิทธิภาพของรองพื้นที่มีสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดได้ราวสองชั่วโมง จากนั้น ประสิทธิภาพของมันก็จะเริ่มลดลงแล้ว โดยจากการศึกษาของ American Acedemy of Dermatology พบว่าหลังจากสองชั่วโมง อณูของออกไซด์ที่ใช้ป้องกันแสงแดดซึ่งจับอยู่กับเม็ดสีของรองพื้นจะซึมเข้าไปในริ้วรอยเล็ก ๆ และรูขุมขน และทำให้การปกป้องแสงแดดหายไปด้วย ผู้หญิงจึงควรทามอยสเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด ภายใต้เมกอัพอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มการปกป้องให้มากขึ้น
5. การดีท็อกซ์แบบง่าย
เพิ่มพลังวังชา การดีท็อกซ์แบบง่าย ๆ ต่อไปนี้ จะช่วยปลุกระบบร่างกายของคุณให้ตื่นตัวขึ้น ขัดผิว การนวดร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสครับอุ่น ๆ เป็นขั้นตอนที่เพิ่มความตื่นตัวและดีต่อสุขภาพ เลือกสครับแบบเกลือ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการช่วยดูดซับของเสียและสารพิษจากผิวได้ด้วย ชโลมน้ำมัน น้ำมันมีความเข้มข้นกว่าครีมทาตัวหรือบาล์ม และใช้เพื่อเพิ่มระดับพลังงานได้เร็วกว่า ลองหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปเล็กน้อย อย่างเช่น สะระแหน่ ตะไคร้ หรือจูนิเปอร์ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยในการกระตุ้นเลือดลม และทำให้อารมณ์คุณดีขึ้นด้วย
6. ดีท็อกซ์ความเครียดดีท็อกซ์ความเครียด
ลองใช้การบำรุงบำเรอตัวเองต่อไปนี้เพื่อขจัดความเครียดให้หมดไป แช่น้ำละลายความเครียด การแช่น้ำอุ่นในอ่างให้ความรู้สึกสบาย และการหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในน้ำอาบเล็กน้อย ช่วยทั้งบำรุงผิว และให้กลิ่นที่ช่วยคลายเครียดได้ด้วย นวดทั่วเรือนร่าง การนวดเบา ๆ ที่แขน ขา และหน้าด้วยมือ ของคุณหรือด้วยแปรงนุ่มๆ ช่วยคลายความเครียดได้อย่างมหาศาลใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของกุหลาบ ลาเวนเดอร์ หรือแซนดัลวูด ที่จะเพิ่มสรรพคุณในการลดความเครียด นวดให้ทั่วร่างกาย ตั้งแต่เท้าจนถึงใบหน้า และอย่าลืมหนังศีรษะด้วย หายใจเข้าลึก ๆ และนวดในทิศทางที่เข้าหาหัวใจ ส่วนหน้าท้องให้นวดตามเข็มนาฬิกา
7. ละระดับสารพิษ
ละระดับสารพิษ คุณมีอาการบวมน้ำ ปวดหัว เหนื่อยอ่อน และผิวหมองคล้ำหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ แสดงว่าคุณมีระดับสารพิษในร่างกายมากเกินไป ลองใช้วิธีการต่อไปนี้ที่ช่วยทำความสะอาดและขจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย เพื่อให้คุณรู้สึกสดชื่น และดูสดใสขึ้นด้วย ผุดผ่องทั่วร่าง ใช้สครับแบบเกลือหรือน้ำตาลทรายผสมกับ น้ำมันหอมระเหย นวดให้ทั่วเรือนร่าง หรือใช้น้ำมันถั่วเหลืองผสมกับ น้ำส้มคั้นหนึ่งซีก เกลือทะเล แล้วลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ผิวคุณจะผุดผ่องขึ้นหลังจากได้ขับเอาเหงื่อและของเสียออกมา มาส์ก ทำความสะอาดรูขุมขนแบบล้ำลึกและกำจัดสิ่งสกปรกจากสิ่งรอบตัวด้วยการใช้มาส์กแบบเข้มข้น เลือกชนิดที่เหมาะกับผิวของคุณ มาส์กแบบโคลนยังอาจช่วยดูดชับของเสียออกจากผิวได้ด้วย
8. ปรับเปลี่ยนไปกับฤดูกาล
ปรับเปลี่ยนไปกับฤดูกาล ถ้าคุณคิดว่าผลิตภัณฑ์อย่างเดียวจะได้ผลสำหรับคุณตลอดทั้งปี ก็ลองคิดดูใหม่ได้แล้วคุณต้องทำความเข้าใจผิวของตัวเอง และดูว่ามันเปลี่ยนแปลงไป อย่างไร และปรับกิจวัตรประจำวันของคุณในเวลาที่จำเป็น ตัวอย่างเช่นในหน้าหนาวที่อากาศแห้งกว่าปกติ คุณก็ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้มันสักหน่อย และอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่เบาบางลงในหน้าร้อนที่มีความขึ้นในอากาศค่อนข้างสูง
9. ลงทุนกับการดูแลผิวพรรณ
สกินแคร์เป็นเหมือนน้ำมันที่ทำให้เครื่องยนต์เดินเครื่องได้ และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ก็ดีวันดีคืนขึ้นด้วย เราเคยต้องใช้เวลากว่า 12 สัปดาห์กว่าจะเห็นผลในการใช้ผลิตภัณฑ์ แต่ตอนนี้เราจะเห็นผลแบบเดียวกันในเวลา 4-8 สัปดาห์ เท่านั้น แต่เพื่อให้เห็นผลที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุณต้องทำตามกิจวัตรการดูแลผิวของคุณอย่างเคร่งครัด และต่อเนื่อง ก็เหมือนกับการออกกำลังนั่นแหละ การออกกำลังเพียง แค่หนึ่งหรือสองครั้งไม่อาจทำให้คุณแข็งแรงได้ฉันใด การดูแลผิวก็เช่นกัน มันต้องให้เวลาและการทุ่มเทอย่างสม่ำเสมอกับมัน
10. กินให้ดี
ถ้าคุณใช้เงินมากมายไปกับครีมบำรุงผิว แต่ไม่ใส่ใจในสิ่งที่คุณกินเข้าไป คุณก็อาจต่อสู้กับสงครามที่มีแต่จะพ่ายแพ้ เรามักลืมกันไปว่า ลักษณะของผิวพรรณนั้น ส่วนใหญ่แล้วถูกกำหนดมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของเรา นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่าเราควรระวังปริมาณแคลอรีที่กินเข้าไปด้วย เนื่องจากเริ่มมีการค้นพบจากงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นว่าการกินมากเกินไป ไม่เพียงแต่จะมีผลในแง่ลบต่อร่างกาย แต่ยังมีผลต่อผิวพรรณของเราด้วย
รู้เคล็ดลับดีๆแบบนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปใช้กันด้วยนะจ๊ะ ถ้าไม่อยากจะแก่ก่อนวัย สวยไม่สร่างจะดีกว่า
#news#
ที่มา: Teen.mthai.com