ซึ่งเชื้อเพลิงชีวภาพซึ่งได้รับการรับรองให้ใช้ในการบินเชิงพาณิชย์ได้แล้วนั้น มีวงจรชีวิตรอยเท้าคาร์บอน หรือปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ น้อยกว่าเชื้อเพลิงเครื่องบินโดยทั่วไปถึง 60%โดยให้เหตุผลว่าธุรกิจของสายการบินอาจไปไม่รอดหากพึ่งแต่น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินเพียงอย่างเดียว เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นค่าใช้จ่ายหลักของสายการบิน จึงได้ทำการประกาศลดจ้างงานลง 500 ตำแหน่ง และลดค่าใช้จ่าย หลังกำไรครึ่งแรกลดลงถึง 83%
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทางสายการบินหวังว่าจะเป็นก้าวแรกสำหรับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงการบินที่ ยั่งยืนของออสเตรเลีย โดยมีการปล่อยเครื่องบินแอร์บัส เอ 330 เดินทางออกจากนครซิดนีย์ไปยังเมืองเอเดเลด ในวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา
ผู้บริหารทางสายการบิน อลัน จอยซ์ ได้ออกมากล่าวว่า “เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันเครื่อง บิน หรือไม่เราก็หมดอนาคต” และกล่าวอีกว่าว่า “และไม่ใช่แค่ราคาน้ำมันที่เป็นปัญหา แต่ยังรวมถึงราคาคาร์บอนด้วย”
#news#
ดังนั้น ตั้งแต่เดินกรกฎาคมเป็นต้นไป แควนตัสจะเป็นสายการบินเพียงแห่งเดียวในโลกที่เผชิญภาวะหนี้สินถึง 3 ด้าน คือ จากยุโรปที่ขึ้นภาษีคาร์บอนของทุกสายการบิน จากนิวซีแลนด์ที่ขึ้นภาษีคาร์บอนกับเจ็ตสตาร์ สายการบินโลว์คอสต์ของแควนตัส และจากออสเตรเลียเอง ที่จะมีผลบังคับใช้ 1 กรกฎาคมนี้
ที่มา: http://www.manager.co.th