ความกังวลของการมาเมืองนอกครั้งแรก ไม่ได้มีแค่ กังวลว่า จะกินอะไร จะนอนยังไง จะพูดกับฝรั่งรู้เรื่องรึเปล่า มีอีกอย่างนึงที่หลายๆคนกังวลก็คือ การถือเงินสดมามากๆ
สำหรับบางคนที่มีฐานะดีหน่อยก็อาจจะพกเป็นบัตรเครดิตก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่กับหลายคนที่ไม่ได้มีเงินมากมาย การถือเงินสดมาเป็นจำนวนมากเป็นครั้งแรก (อาจจะมากที่สุดในชีวิตที่เคยจับเงิน) ก็อดเป็นกังวลไม่ได้ว่าจะไปพลาดทำเงินหาย หรือโดนขโมย
จริงๆแล้วมันก็มีวิธีปลอดภัยกว่านั้นคือแลก เป็นเช็ก แต่ก็นั่นแหละเราก็จะได้แลกเงินในเรตที่ธนาคารกำหนดซึ่งก็จะได้น้อยกว่าถ้าเราไปแลกที่ตลาดมืด ตลาดมืด!ฟังดูน่ากลัว ถ้าคิดภาพตามต้องเป็นสถานที่อับๆชื้นๆ มืดๆ มีเสียงร้องของผู้หญิงถูกทรมาณดังโหยหวน มีจิ๊กโก๋หน้าโหดๆ 2-3 คนคอยยืนคุม คนหนึ่งพับแขนเสื้อขึ้นให้เห็นรอยสักที่ต้นแขน อีกคนนึงใส่เสื้อเชิตยีนซีดๆเอาซองบุหรี่เหน็บที่ใหล่ ใส่แว่นตาดำทรงตี๋ใหญ่ แต่ตลาดมืดในความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงจากภาพที่คิดไว้ กลายเป็นตึกแถวที่ตกแต่งหรูหราสะอาดสะอ้าน พนักงานใส่สูทผูกไทด์ดูเป็นทางการมาก พนักงานหญิงที่คอยมาสอบถามว่ามาแลกเงินอะไร ก็หน้าตาน่ารักสดใส จนอยากจะเปลี่ยนใจเอาเงินที่จะมาแลก เปลี่ยนเป็นสินสอด สู่ขอเธอซะให้รู้แล้วรู้รอด !
เพื่อนผมคนนึงเคยเล่าให้ฟังว่าการนั่งเครื่องบินมาออสเตรเลียครั้งแรกนั้น นอนไม่หลับเอาเสียเลย ไม่ใช่เพราะความตื่นเต้น แต่เป็นเพราะความที่ว่ากลัวเงินสดในกระเป๋ากางเกงจะหล่นหาย กลัวว่าฝรั่งทางข้างซ้ายจะรวมหัวกับเกาหลีทางขวา หลอกมอมไวน์ให้หลับ แล้วจะฉกไป มันบอกว่าเอาเงินแบ่งเป็นสองก้อนไว้ในกระเป๋าซ้ายและขวา ถ้าหายไปข้างอย่างน้อยก็ยังเหลืออีกครึ่ง
วันที่ผมมาครั้งแรกก็ทำคล้าย ๆ กัน มันจะรู้สึกร้อนตุ่ยๆที่กระเป๋ากางเกง ทันทีที่ล้อเครื่องบินแตะลงพื้นแผ่นดินออสเตรเลีย อยากจะวิ่งไปแคะหน้าประตูธนาคาร ให้ช่วยเอาไอ้ความกังวลไปเก็บรักษาให้ที แต่ก็ได้แค่คิด สำหรับคนที่รักภาษาไทยจนไม่ได้สนใจภาษาอังกฤษอย่างผม(แฮะๆ) จะใช้ภาษามือก็ทำท่าว่า “จะมาเปิดบัญชี” ก็ทำไม่เป็น(มีใครทำเป็นมั้ย) ที่ทำได้อย่างเดียวในเวลานั้นก็คือต้องรอให้เพื่อนว่างแล้วพาไป ผมมีเพื่อนมาอยู่ที่นี่ก่อนแล้วประมาณ 4-5คน พอมาถึงก็โทรบอกเพื่อนแต่ละคนว่ามาถึงแล้ว
คำถามที่เพื่อนทุกคนจะถามก็คือ
“ มึงไปแบงค์มารึยัง ถ้ายังก็รีบไปซะเร็วๆ ที่นี่เค้าไม่พกเงินสดกัน เดี๋ยวโดนจี้ ”
พอได้ยินว่า โดนจี้ ใจผมก็หายวูบรีบให้เพื่อนพาไป ระหว่างทางไปแบงค์ก็เจอเพื่อนของเพื่อนบ้าง พอแนะนำตัวว่าเพิ่งมาทุกคนก็บอกว่าให้รีบไปเปิดบัญชี การเปิดบัญชีที่นี่ไม่ยากอย่างที่คิด ไม่ได้มีขั้นตอนหรือต้องใช้เอกสารยุ่งยาก ประมาณแค่10 นาท ีเราก็จะได้บัตรเอทีเอ็มมาใช้ ไอ้ความกังวลก็จะหายไป จากนั้นผมก็ซื้อโทรศัพท์มือถือโทรหาเพื่อนๆแต่ละคน ว่านี่เป็นเบอร์ผม และก็ไม่ลืมที่จะบอกว่า
“กูไปแบงค์มาแล้วโว้ย”
เงินที่ฝากผมไม่ได้ฝากจนหมดยังเหลือเงินสดที่ไม่ถึงร้อยเอาใว้ใช่จ่ายของใช้ส่วนตัวก่อน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นใบห้าดอลบ้าง ใบสิบดอลบ้าง วันนั้นก็ใช้ไปมากโขคิดเป็นเงินไทยก็พันกว่าบาท ก็เลยคิดว่าอาหารเย็นกินถูกๆละกัน เลยไปร้านมินิมาร์ทเกาหลีแถวบ้านกะจะซื้อมาม่าเกาหลี เพราะผมชอบกินตั้งแต่อยู่เมืองไทยแล้ว พอเจอยี่ห้อที่คุ้นเคยก็เลยหยิบโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
พอเอาไปคิดเงิน ผมก็ได้ยินพนักงานเกาหลี ถามเป็นภาษาอังกฤษ ประมาณว่า
“ ยู %#*&แบงค์”
ผมคิดว่าเค้าเป็นห่วงเป็นใยเห็นเป็นคนเอเชียเหมือนกัน เลยถามว่า ยูไปแบงค์มารึยัง ผมตอบกลับด้วยความมั่นใจว่า
“ yes I’m already been there in the morning thank you very much ”
เกาหลีมันทำหน้างงๆ พร้อมกับโชว์ ถุงพลาสติกในมือ แล้วถามอีกทีว่า
“ Do you wanna bag ? !! ”