iWatch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ

สาวก Apple ได้ตื่นเต้นอีกครั้งกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกเรียกว่า “iWatch” หรือ นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ

ในเดือนเมษายน 2015 นี้ที่ออสเตรเลีย จะมีลูกเล่นแบบไหน สไตล์ไหน โดนใจใครบ้าง ลองดูไปพร้อมๆ กันเลย

Apple watch เป็นนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะที่ได้มีการออกมาใช้งานร่วมกับ iPhone โดยส่งสัญญาณผ่านมือถือด้วยระบบ Bluebooth LE ในรุ่น iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 5c, iPhone 6 และ iPhone 6 Plus

Apple Watch แบ่งออกเป็น 3 คอลเลคชั่น ดังนี้

Apple Watch รุ่นปกติ มาพร้อมกับจอกระจกแซฟไฟร์ วัสดุตัวเครื่องทำจากเหล็ก stainless steel

Apple Watch Sport รุ่นสำหรับนักกีฬา ตัวเรือนเป็นอะลูมิเนียม anodised aluminium หน้าจอกระจก Ion-X แข็งแรงทนทาน และเบากว่าเหล็กสายรัดทนเหงื่อและสารเคมีต่าง ๆ

Apple Watch Edition รุ่นหรู ตัวเรือนทำจากทองคำ 18 กะรัต หน้าจอคริสตัลแซฟไฟร์ ดูหรูหรามีราคา

iWatch ทั้ง 3 คอลเลคชั่นนี้ มีการออกแบบที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไป แต่ละรุ่นจะมีสายรัดข้อมือให้เลือกหลายแบบหลายสีสัน มีทั้งแบบสายโลหะและสายหนัง และจะมีตัวเรือนให้เลือก 2 ขนาดคือ 38 มม. และ 42 มม. (วัดจากความสูง) โดยด้านหลังของตัวเรือนสามารถใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

สำหรับการควบคุมการทำงานของ Apple Watch นั้น นอกจากจะใช้การสัมผัสหน้าจอเช่นเดียวกับ Smartwatch ทั่วไปแล้ว Apple Watch ยังมี Digital Crown (เม็ดมะยม) เนื่องจากจอภาพที่เล็กของ Apple Watch ไม่เหมาะสมกับการใช้มัลติทัช เพราะว่านิ้วของผู้ใช้จะบดบังเนื้อหาบนหน้าจอทั้งหมด Apple จึงได้เลือกการใช้เม็ดมะยมเพื่อทดแทนการซูมเข้าและออกด้วยนิ้วสองนิ้ว หรือในบางกรณีใช้แทนการ scroll ได้ การ “กด” เม็ดมะยมบน Apple Watch ก็เหมือนกับ การกดปุ่ม Home button บนอุปกรณ์ iOS อื่น ๆ

ผู้ใช้สามารถกลับไปสู่หน้าจอ Home Screen ได้ด้วยการกดเม็ดมะยมหนึ่งครั้ง และหากกดบนหน้า Home Screen อีกครั้ง Apple Watch จะแสดงหน้าปัดนาฬิกาให้ Digital Touch เป็นแอพสื่อสารใหม่ที่ผู้ใช้สามารถเรียกขึ้นมาได้ด้วยการกดปุ่ม Digital Touch ซึ่งอยู่ด้านล่างของเม็ดมะยม โดยแอพตัวนี้เป็นแอพสื่อสารที่ผู้ใช้สามารถส่ง Emoji, วาดภาพ หรือส่ง “ใจ” ไปให้ผู้ใช้ Apple Watch อีกคนได้

ในส่วนของระบบปฏิบัติการของ Apple Watch หน้าปัดสามารถเลือกเปลี่ยนได้หลายแบบแอพฯ พื้นฐานของแอปเปิลที่มีติดมาแต่แรกอย่าง ข้อความ สุขภาพ ปฏิทิน อากาศ อีเมล์ ภาพถ่าย ปุ่มชัตเตอร์กล้อง สมุดบัญชีเงินฝากที่สามารถชำระค่าใช้จ่ายของทางแอปเปิ้ล แผนที่ ข้อมูลจะถูกเชื่อมผ่าน iPhone นอกจากนี้ยังมีแอพฯ ต่าง ๆ จากผู้พัฒนาแอพฯ ภายนอก (Third-party) ที่จะพัฒนาแอพฯ มารองรับApple Watch อีกมากมาย

นอกจากจะเป็นนาฬิกาอัจฉริยะแล้ว ยังสามารถเป็นไฟฉาย ตามออเดอร์พิซซ่า และก็ค้นหาข้อมูลทางอินสตาแกรม โดยไม่จำเป็นต้องเอามือถือออกมาจากกระเป๋าอีกด้วย

การใช้งาน iWatch จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ซึ่งต้องชาร์จทุกวันเหมือนกับมือถือทั่วไป ส่วนราคาเริ่มต้นที่ AU$403