ลุงมี (ชื่อสมมุติ) กับป้ามา (ชื่อสมมุติ) มาอยู่ซิดนีย์ตั้งแต่อายุ 30 นิดๆ เส้นทางชีวิตก็สุดจะคลาสสิค แนวว่ามาแรกๆ ก็อยากทำงานเก็บเงิน.. พอมีเงินก็อยากได้พีอาร์... พอมีทั้งเงิน มีทั้งพีอาร์ ก็อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง... พอมีร้าน มีเงิน ชีวิตดี มีความสุข ก็ต้องมีลูก !!!
จาก 2 คนทำ 2 คนใช้... ก็กลายเป็น 1 คนทำ 3 คนใช้... แต่ไม่เป็นไร เจ้าของกิจการ รายได้เยอะ แถมเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่ปี เดี๋ยวพอลูกเข้าโรงเรียน ป้ามาก็กลับมาช่วยทำงานได้แล้ว... แต่ลูกคนแรกยังไม่ทันจะเข้าโรงเรียน เอ๊า~!!! ป้ามาดันท้องลูกคนที่สองซะนี่ !!
ทีนี้เลยกลายเป็นลุงมีทำงานคนเดียว เลี้ยงดู 4 คน สนุกสนานกันเลยทีเดียว.. แต่ไม่เป็นไร ร้านอาหารไทยกำไรดี ทำไป ใช้ไป ก็ยังมีเงินเหลือเก็บ... พอลูก 2 คนเข้าโรงเรียนหมด ลุงมี กับป้ามา ก็เปิดร้านสอง !!! เงินเยอะ เงินแยะ ไม่รู้จะเอาไปแอบไว้ไหน ก็โอนไปลงทุนที่เมืองไทยดีกว่า... เรื่องบ้ง เรื่องบ้านที่นี่ก็เช่าเค้าไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเห็นราคาขึ้นเอ๊า.. ขึ้นเอา.... ก็คิดได้ว่า.... ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ ต่อไปรุ่นลูก-รุ่นหลานเราคงไม่มีปัญญาซื้อแน่ๆ เลยเดินเข้าไปถามแบ้งค์เมื่อตอนอายุ 57 อ๊ายยยหยาาา... !!!
เงินดาวน์ก็มี รายได้ก็เยอะ แต่โดนปฏิเสธทุกแบงค์ เพราะอีก 6 ปีก็จะเกษียณอยู่แล้ว.. ต่อให้เป็นเจ้าของกิจการเอง ให้ทำงานเต็มที่ถึงอายุ 70 ก็เหลืออีกแค่ 13 ปี... แล้วจะกู้ยังไงตั้ง 30 ปีล่ะยูวววว์??? หลังเกษียณแล้วยูจะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนต่อ???
ลุงมีกับป้ามาหันมามองหน้ากันสามวิ ก่อนจะตอบแบ้งค์... ต่อให้ไม่ทำงาน ไอก็ต้องหาเงินมาให้ยูให้ได้อยู่ดีแหละ ไอไม่ปล่อยให้ยูมายึดบ้านไปหรอก... หรือถ้าไม่มีปัญญาผ่อนจริงๆ ถึงตอนนั้นยูค่อยมายึดบ้านไอไป ยังไงแบ้งค์ก็ไม่ขาดทุนอยู่แล้ว !!! (ที่อยากจะบอกคือ... อนุมัติมาเหอะน่า!!!)
เอ่อ... ป้าขา... ลุงขา... เรากำลังพูดถึงสินเชื่อในออสเตรเลียอยู่นะคะ ไม่ใช่ร้านอาหารที่เมืองไทย – จะได้ไปสั่งโน่น สั่งนี่ ถ้าไม่มีเงินจ่าย เดี๋ยวก็ล้างจานให้เอง ยังไงก็ไม่กินฟรีหรอก... สิ่งนึงที่ป้ากับลุงต้องรู้ คือ ประเทศออสเตรเลียมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่สุดยอดมากๆ เค้าไม่อนุญาติให้แบงค์ (หรือดิฉัน) ขาย “หนี้” มั่วซั่วชนิดหลับหูหลับตาอนุมัติไปเหอะ ถ้าไม่มีปัญญาผ่อนก็ค่อยไปยึดบ้านเอา ยังไงแบงค์ก็ไม่เสียเปรียบอยู่แล้ว...
จริงค่ะ กรณีของลุงกับป้านี่แบงค์มีแต่ได้กับได้.. คนที่เสียเปรียบคือลุงกับป้านี่แหละ สมมุติว่าผ่อนไปซักครึ่งทางแล้วลุงกับป้าเกิดอยากพักผ่อน (ขี้เกียจทำงานแระ) ทำไงล่ะทีนี้?? จะหยุดก็หยุดไม่ได้.. มีหนี้บ้านเหลืออีกตั้ง 15 ปี.. ถึงตอนนั้นคนที่จะเครียดที่สุดก็คือลุง-ป้าเองนั่นแหละ.. หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้นอีกหน่อย สมมุติว่าผ่อนไม่ไหวจริงๆ งั้นก็ยกให้แบงค์ไปเลยละกัน.. เราอาจจะได้เห็นรูปลุง-ป้าขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับในออสเตรเลีย พร้อมพาดหัวข่าว “แบงค์ไร้จรรยาบรรณ ปล่อยกู้มั่วซั่ว ทำตา-ยายอายุ 73 ต้องระเห็ดออกจากบ้านที่ร่วมกันผ่อนมาถึง 15 ปี!!”
เล่ามาถึงตอนนี้.. หลายคนอาจจะคิดว่า อ้าว!! งี้อายุเลยหลัก 5 ก็กู้ไม่ได้แล้วสิ???
ถูกครึ่งนึงค่ะ ถ้าอายุเกิน55 ปีแล้วไม่สามารถตอบแบงค์ได้ว่าจะเอาไงต่อกับชีวิตหลังเกษียณ ยังไงแบงค์ก็ไม่อนุมัติแน่ๆ แต่ถ้าคุณลุง-คุณป้า มี exit strategy สวยๆ เตรียมไว้ เช่น ถ้าเกษียณแล้วลูกๆ อยากผ่อนต่อก็จะยกให้พวกเค้า ถ้าไม่มีใครอยากได้จริงๆ ก็จะขาย (บ้าน 5 แสนวันนี้.. น่าจะขึ้นหลักล้านในอีก 15 ปีได้ไม่ยาก) ถึงตอนนั้นก็เก็บกำไร 5 แสนแล้วกลับไปใช้ชีวิตหลังเกษียณที่เมืองไทย - ไอมีบ้านที่เมืองไทยอยู่แล้ว เงิน 5 แสนนี่เหลือเฟือสำหรับค่าครองชีพที่เมืองไทย
คดีพลิกเลยค่ะ กลายเป็น วิน-วิน ทันที.. แบงค์ก็ได้ดอกเบี้ย ลูกค้าก็ได้กำไรจากบ้าน... นอกจากจะไม่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้ามีเงินเก็บหลังเกษียณมากขึ้นอีกด้วย J
เพราะเรื่องของสินเชื่อ ไม่ได้มีแค่ตัวเลข... ถ้าต้องการที่ปรึกษา โทรหา New Era Finance สิคะ 0467 662 431 (ตุล), 0421 809 669 (เอ)