ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากเป็นเศรษฐีกันทั้งนั้น แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ลองทำตาม 14 นิสัยเศรษฐีที่คุณเองก็สามารถทำตามได้ หมั่นฝึกฝนนิสัยเหล่านี้ไว้ จนวันนึงอาจจะเป็นเรื่องที่ออกมาจากตัวคุณเองโดยไม่ต้องบังคับ หรือไม่คุณก็อาจคิดนิสัยอื่นๆ เพิ่มขึ้นได้เองคะ
1. ใช้เงินให้น้อยกว่าที่หามาได้เสมอ – ไม่ว่าเงินเดือนจะขึ้น จะมีการปรับตำแหน่ง ได้โบนัส อย่าได้ลืมคาถาข้อนี้ ใช้ให้น้อย กว่าที่หาได้เสมอ และเงินที่หาได้ไม่สำคัญเท่ากับเงินที่เก็บได้
2. อย่าเป็นหนี้ – โอเค หนี้ที่สำคัญๆ เช่น บ้าน หรือรถคันเล็กๆ ที่พอให้เรามีความสะดวกสบายในการทำมาหากิน เป็นเรื่องพออนุโลมได้ แต่อย่าหาเรื่องเป็นหนี้ให้มากเกินไป
3. หากเป็นหนี้ รีบใช้หนี้ให้หมดให้เร็วที่สุด – โดยเรียงลำดับจากหนี้ที่มีดอกเบี้ยโหดที่สุด เช่น หนี้บัตรเครดิต ได้เงินมาให้ชำระหนี้ก้อนนี้ให้หมดเสียก่อน แล้วห้ามก่อหนี้เพิ่มเป็นอันขาด
4. จัดลำดับความสำคัญในชีวิต – เมื่อลองจัดดู เราจะเห็นว่าเราควรจะใช้เงินไปกับอะไรมากที่สุดก่อน โดยเฉพาะเรื่อง ที่อยู่ ความรู้ เงินเก็บ ประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งจะทำให้เราสามารถมีอิสระทางการเงินได้อย่างแท้จริงในอนาคต
5. สร้างเป้าหมายเก็บเงิน – โดยดูจากรายได้และรายจ่ายตามจริง พยายามตัดรายจ่ายไร้สาระออกให้ได้มากที่สุด และหารายได้เพิ่มตามกำลังที่สามารถ
6. อย่าเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น – ไม่มีใครรู้หรอกว่าอีกคนหนึ่งที่เรากำลังจ้องมองเขาอยู่ แท้จริงแล้วเขามีชีวิตอย่างไร ที่บอกว่ามีหรือไม่มีจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของเรา จงตั้งใจพัฒนาสิ่งที่เรามีให้ได้เกิดคุณค่ามากที่สุดจะดีกว่า
7. หาความสุขง่ายๆ – อย่างที่เคยบอกไปแล้วในคอลัมน์นี้ว่า คนที่มีเงินจริงๆ มักมีชีวิตง่ายๆ ธรรมดาๆ ซึ่งใช่ว่าคนเหล่านี้จะทุกข์ยากในไลฟ์สไตล์ของเขานะ ก็เพราะมีความสุขได้ง่ายๆ นี่เองที่ทำให้เขามีเงินเก็บและทรัพย์สินมากมาย เป็นเศรษฐีจริงๆ ไม่ใช่เงินผ่อน รู้อย่างนี้แล้ว เริ่มทำตัวง่ายๆ ไม่ต้องประดิษฐ์มากไปจะดีไหม
8. หาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ – ใครบอกว่าเราเรียนอะไรแล้วจะต้องทำงานในสิ่งที่เรียนมาตลอดชีวิต ลองหาความรู้ใหม่ๆ ใส่ตัว เปิดตาเปิดใจเปิดโลกให้กว้าง เพื่อรับรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น เรียนภาษาเพิ่มเติม เรียนทำอาหาร (หรือเปิดดูยูทูป) เรียนจัดดอกไม้ หรือปลูกผักปลูกต้นไม้ ทำในสิ่งที่เรามีความสุขนอกเหนือจากงาน ใครจะรู้ ความรู้ใหม่ สังคมใหม่ อาจช่วยหาโอกาสใหม่ๆ ให้ชีวิตเราก็ได้
9. ทำอาหารทานเองให้บ่อยขึ้น – โดยเฉพาะคนที่ทำงานยุ่งมากๆ ลองจัดเวลาและทำอาหารทานเอง เพราะนอกจากจะสะอาดและประหยัดกว่าฝากท้องไว้นอกบ้านตลอดเวลาแล้ว ยังเป็นการพักสมอง ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวไปมา และเป็นการรักษาสุขภาพในระยะยาว
10. รักษาสุขภาพ – นอกจากทานอาหารที่ดี ก็ควรดูแลสุขภาพ การทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ ไม่เคยเป็นสิ่งดีกับใครในระยะยาว ทางที่ดีคือให้งาน เงิน และชีวิต มีความสมดุลย์ และต้องเข้าใจว่าสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถประหยัดได้มากที่สุด เพราะหากไม่ป่วย ก็ไม่ต้องเสียสตางค์ไปหาหมอ ซึ่งมีราคาแพงมาก
11. อย่าเมินเงินน้อย – เพราะเงินน้อยเมื่อรวมกัน ก็จะเป็นก้อนใหญ่ๆ ที่สำคัญได้เสมอ หากเป็นคนที่คิดว่าเงินวันละร้อย ไม่สำคัญ ให้ลองคุณ 30 วัน หรือ 365 วัน คุณจะเห็นว่ามันกลายเป็นหลายบาททีเดียว ดังนั้นคราวหน้า อย่าคิดว่าเล็กน้อย ไม่เป็นไรนะคะ
12. อย่าคอยวาสนา – หากคิดว่าชีวิตที่มีในปัจจุบันไม่ดี และไม่น่าจะดีขึ้น ลองหาหนทางอื่นๆ ให้ตัวเองดู บางครั้งเราก็ต้องคิดนอกกรอบ ออกจากโลกอันแสนสบายของตนเอง เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิตดูบ้าง ที่สำคัญให้จำไว้ว่า โชคที่ดีมักมีกับคนที่แสวงหาเสมอ
13. แยกแยะระหว่างสิ่งที่อยากได้ กับสิ่งที่จำเป็น – จำไว้ว่าความอยากไม่มีที่สิ้นสุด มีเงินแล้ว ก็อยากมีอีก มีรถแล้วก็อยากมีรถดีขึ้นอีก มีเงินล้นฟ้าแล้ว ก็ยังอยากมีอำนาจอีก เราต้องควบคุมตนเองไม่ให้ไหลไปกับความอยาก โดยเฉพาะเมื่อเงินมีจำกัด เพราะความอยากคือต้นตอของความพังพินาศทางการเงิน
14. ไม่อวดรวย – ใช่ค่ะ เมื่อมีเงินแล้ว เศรษฐีที่รวยจริงๆ ส่วนมาก มักไม่อวด เราที่ไม่ได้รวยมาก ก็ใช้นิสัยนี้ได้ คือไม่ต้องอวด หนึ่ง การอวดเป็นเรื่องน่าอับอาย ใครจะรู้ว่าคนที่ฟังเราอยู่อาจมีมากกว่าเราก็ได้ เพียงแต่เขาไม่พูด และเมื่ออวดรวยก็มักจะต้องทำตัวรวยให้สมลมปากด้วย ซึ่งเปลืองเงินเปล่าๆ เรื่องมีหรือไม่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา และเมื่อมีเงินแล้ว ก็ขอให้มีความสุขด้วย เพราะความสุข สงบ ในใจนั้น เงินซื้อไม่ได้ ต้องสร้างเอง จริงๆ
