2024-12-23

วงแขนขาวใสไร้ขนรักแร้




ขน ถือเป็นอุปสรรคความงามของผู้หญิงที่ไม่ได้มีใครต้องการให้มีอยู่บนเรือนร่างของตนเองเลย ไม่ว่าจะเป็นขนในส่วนใดๆ ก็คงทำให้สาวๆ รู้สึกรังเกียจ และต้องการอยากจะถอนรากถอนโคนให้มันหมดสิ้นไป แต่เนื่องจากการถอนไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่สุดในการกำจัดขน และการถอนก็ยังไม่ใช่วิธีที่จะกำจัดขนเหล่านี้ไปได้อย่างถาวร ทำให้สาวๆมักจะมองหาวิธีการใหม่ๆที่จะช่วยกำจัดขนใต้วงแขน ซึ่งจะช่วยให้รักแร้ดูขาว ใส และเรียบเนียนได้ตลอดเวลา

สาวๆ คงจะไม่มั่นใจเท่าไรหากจะต้องใส่เสื้อแขนกุดในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้กำจัดขนเหล่านี้ออกไป เพราะถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้คนรอบตัวของเราสังเกตเห็นขนเส้นดำๆของเราได้ และจะทำให้ตัวเราดูเหมือนเป็นคนที่สกปรกและไม่ดูแลตัวเอง จนอาจจะทำให้หนุ่มๆเข็ดขยาดและไม่กล้าเข้ามาใกล้ก็เป็นได้

ฉะนั้น วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีการในการกำจัดขนกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง วิธีใดที่ตรงกับพฤติกรรมที่คุณทำอยู่ทุกวัน หรือวิธีการใดที่ไม่ควรเลยที่จะทำมันบ่อยๆ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

1. ถอน 
การถอน คือ วิธีพื้นฐานที่จะกำจัดเอาขนทุกประเภทให้หลุดออกไปจากร่างกายของเรา การถอนจึงเป็นวิธีการง่ายๆสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้ร่างกายมีขนขึ้นที่บริเวณนั้นๆ ซึ่งอุปกรณ์สำคัญในการกำจัดขนด้วยวิธีการถอน ก็คือ แหนบ ที่จะช่วยจัดยึดโคนของเส้นขน ก่อนที่เราจะใช้แรงกระตุกมันออกมาแบบถอนออกมาทั้งรากทั้งโคน แม้ว่าวิธีนี้จะเป็นการกำจัดขนที่ง่าย เห็นผลได้ไว แล้วไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก แต่ก็อย่าลืมว่าขนเส้นใหม่ก็ยังมีสิทธิที่จะขึ้นมาแทนที่ขนเส้นเก่าได้อีก และการถอนขนให้หลุดจากผิวหนังโดยการใช้แรงดึง ก็มีผลโดยตรงต่อรูขุมขนบริเวณนั้นๆ ทำให้ผิวหนังของคุณเกิดความไม่เรียบเนียน และทำให้เกิดลักษณะของหนังไก่ได้

2. โกน 
การโกน ก็ถือเป็นวิธีการง่ายๆที่จะกำจัดขนออกไปจากบริเวณที่คุณไม่ต้องการได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และไม่เจ็บตัว ตราบใดที่คุณไม่เผลอเอาใบมีดไปกรีดโดนผิวหนังของคุณ การโกนสามารถรักษาผิวหนังที่เรียบเนียนไร้เส้นขนได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ใช่ระยะเวลาที่ยาวนาน เพราะการโกนไม่ได้เป็นการกำจัดขนทั้งเส้นเหมือนอย่างการถอน หลังจากที่คุณโกนขนไปได้เพียงแค่ 2-3 วัน ขนเส้นนั้นๆจึงสามารถจะงอกขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งจะเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะตัวของบุคคลผู้นั้นด้วย นอกจากนี้ เรามักจะพบว่า ขนที่งอกออกมาใหม่หลังการโกน มักมีลักษณะแข็ง ดำ และหน้าขึ้นกว่าขนเส้นเดิม โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะเหมือนเสี้ยนที่คอยแทงผิว จนอาจทำให้เกิดอาการคันตามผิวหนังบริเวณต่างๆได้หากเกิดการเสียดสี

3. แวกซ์ 
เมื่อถอนก็ไม่ดี โกนก็ไม่ได้ สาวๆจึงมักจะหันมาใช้วิธีที่เรียกว่า การแวกซ์ แทน ซึ่งการแวกซ์ถือเป็นวิธีการกำจัดขนที่ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจ เนื่องจากสามารถกำจัดขนได้ทั้งเส้นจนถึงราก และช่วยให้ผิวมีลักษณะเรียบเนียนได้นาน ซึ่งถือเป็นการผนวกเอาข้อดีของทั้งสองวิธีเข้าไว้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม การแวกซ์ขนก็ต้องแลกมากับความรู้สึกเจ็บในขณะที่ขนถูกแวกซ์ออกไป แต่ก็เป็นความเจ็บที่อยู่เพียงชั่วครู่เท่านั้น

4. ครีมกำจัดขน 
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน เพราะวิธีในการทำไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเจ็บตัว และได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเรียบเนียน ครีมกำจัดขนพวกนี้มักจะมีส่วนประกอบของสารเคมีที่คอยทำหน้าที่กัดกร่อนเส้นขนให้อ่อนตัว ทำให้หลังจากทาครีมทิ้งไว้สักครู่ ขนเหล่านั้นก็จะหลุดออกมา เพียงแค่คุณเช็ดหรือล้างออกเบาๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากครีมเหล่านี้มีส่วนประกอบทางเคมี จึงอาจมีผลให้บุคคลบางคนแพ้ได้ง่าย การใช้งานจึงไม่ควรใช้กับผิวหนังในบริเวณที่บอบบาง เพราะจะมีความเสี่ยงที่คุณจะได้รับอันตรายได้สูง ส่วนสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ ก็คือ การจะใช้ครีมกำจัดขนพวกนี้ จำเป็นต้องมีความอดทนมากสักหน่อย เพราะครีมเหล่านี้มีกลิ่นฉุนที่ทำให้คุณเกิดอาการเวียนหัวได้ไม่น้อยเชียวละ

5. เลเซอร์
การเลเซอร์ ถือเป็นการกำจัดขนแบบระยะยาว ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด เนื่องจากเลเซอร์ที่ยิงเข้าไปจะไปทำหน้าที่ทำลายรากขน ทำให้รากขนอ่อนแอลงเรื่อยๆ เมื่อทำไปหลายๆครั้งเข้า รากขนที่อ่อนแอก็จะมีเส้นขนที่มีสีอ่อนลง บางลง และหยุดการเจริญเติบโตไปในที่สุด แม้ว่าวิธีนี้จะดูเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการกำจัดขนให้หายไปได้อย่างยาวนาน แต่ก็ต้องอย่าลืมสำรวจเงินในกระเป๋าสตางค์คุณด้วยแล้วกันว่ามีเพียงพอหรือไม่ เพราะค่าใช้จ่ายในการเลเซอร์ค่อนข้างสูงมากกว่าวิธีการกำจัดขนวิธีไหนๆเลยทีเดียว

ลองเลือกดูแล้วกันนะคะว่า อยากจะกำจัดขนด้วยวิธีไหน เพราะแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปในหลายมุมมอง ขึ้นอยู่กับคุณแล้วละคะว่าอะไรที่เหมาะสมต่อคุณมากที่สุด

 

เครดิตจาก เวปสุขภาพน่ารู้

Natui Website 2015-05-20 14:19:27 5400