อาการท้องร้องเป็นอาการหนึ่งที่เกิดจากการทำงานของร่างกาย เราอาจจะมองว่าเรื่องความหิว เป็นเรื่องของกระเพาะอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ค่ะ เพราะกระเพาะอาหารของเราก็ทำงานโดยมี "สมอง" เป็นผู้ควบคุมเหมือนกัน การทำงานของกระเพาะอาหารจะเริ่มตั้งแต่ เราได้รับกลิ่น หรือนึกถึงอาหาร เส้นประสาทจากสมองจะกระตุ้นให้กระเพาะและลำไส้ของของเราเคลื่อนที่และหลั่งสาร พร้อมสำหรับการย่อยอาหารที่จะตามมาในไม่ช้า
ถ้าในร่างกายเรามีสารอาหารเพียงพอ สมองก็จะสั่งให้ระบบย่อยทำงานช้าลง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มมีสารอาหารน้อยหรือกระเพาะเริ่มว่าง ระบบย่อยอาหารจะทำงานเร็วขึ้นกว่าเดิมกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารจะหดตัวแรงกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการสั่น จึงเป็นเสียงท้องร้องดังโครกครากออกมานั่นเอง
นอกจากกระเพาะแล้วเสียงท้องร้องก็อาจมาจากการบีบตัวของลำไส้เล็กได้อีกด้วย อย่างเสียงท้องร้องตอนทานข้าว ก็เกิดจากกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กบีบตัว เพื่อคลุกเคล้าอาหารและทำการย่อย! สำหรับคนเอวบางร่างน้อยจะได้ยินเสียงท้องร้องได้ชัดกว่า และถ้านอนหงายก็จะเกิดอาการท้องร้องได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะลำไส้บีบตัวได้สะดวกกว่า แม้ว่าท้องร้องจะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเริ่มได้ยินเสียงประท้วงจากท้องของเรา แสดงว่าท้องน้องๆ เริ่มว่าง หาขนมเบาๆ มารองท้องก่อนมื้ออาหาร และทานอาหารให้ตรงเวลาด้วยนะคะ^^
นอกเหนือต้นเหตุแห่งความหิวแล้ว บางคนยังมีแอบมีอาการท้องร้องอยู่บ่อยๆ ทั้งเช้า กลางวัน เย็น บางทีเพิ่งกินข้าวเสร็จก็ยังจะร้องอีก ในกรณีนี้ไม่ต้องไปแก้ปัญหาด้วยการกินๆๆๆ นะคะ เพราะอาจเป็นปัญหาอย่างอื่น เช่น ดื่มน้ำอัดลมเยอะเกินไปจนมีก๊าซในกระเพาะปริมาณมาก มีกรดในกระเพาะมาก หรือเกิดความเครียดจนส่งผลถึงการย่อยอาหารก็ได้ค่ะ รวมถึงอาจเป็นสาเหตุของโรคลำไส้อักเสบที่ส่งผลถึงการย่อยและการดูดซึมอาหาร น้องๆ คนไหนที่มีอาการแบบนี้บ่อยๆ ลองหาหมอเพื่อตรวจดูนะคะ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ
เชื่อว่าน้องๆ หลายคนเข้าใจผิดมาตลอดว่าท้องร้องเพราะความหิว ก็เลยมุ่งมั่นจริงจังกับการกินเพื่อแก้หิว สุดท้ายได้ห่วงยางมาประดับตัวซะงั้น 5555 เอาเป็นว่า ทุกอาการที่เกิดมาจากร่างกายก็เป็นผลที่เกิดจากระบบในร่างกายของเราทั้งนั้น แต่จะเป็นอาการที่ดีหรือไม่ดี น้องๆ ต้องหัดสังเกต และปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านั้นอีกนะคะ อย่างเช่นในเรื่องนี้ถ้ายังอิ่มและท้องร้องอยู่บ่อยๆ สันนิษฐานเบื้องต้นได้เลยว่าไม่ใช่ท้องร้องเพราะหิวแน่ๆ ดังนั้นนั่งรถไปโรงพยาบาลปรึกษาคุณหมอเพื่อฟังคำแนะนำดีที่สุดจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการวันละนิดวิทย์เทคโน