2024-11-25

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า “รัฐ”




เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศช่วง School Holiday ที่ผ่านมา.. ดิฉันมีเรื่องเกี่ยวกับโรงเรี๊ยนนน... โรงเรียนนนน...จะมาเม้าท์มอยให้อ่านกันเพลินๆ เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนจะไปต่อกันด้วยเรื่อง Home Loan นะคะ

 

เรื่องมีอยู่ว่า.. สมาชิกในแก๊งแม่ๆของดิฉันคนนึง (เผื่อใครยังไม่รู้ ดิฉันมีลูกน้อยหอยสังข์อายุ 3 ขวบครึ่งอยู่คนนึง) พาลูกชายวัยใกล้เคียงกันไป childcare อาทิตย์ละ 3 วัน แล้วก็ดั๊นนนน... สังเกตุเห็นว่า ครูไม่เห็นจะสอนวิชาการอะไรเลย ลูกนางยังท่อง ABC ไม่ได้... นับ 123 ก็ไม่ถูก... มองผ่านๆแล้วก็อดคิดไปไม่ได้ว่า ครูแค่เอาเด็กๆไปไว้รวมกัน แล้วก็ให้เล่นกันเองไปวันๆ แล้วนี่มันไม่ควรป่ะ?? ชั้นส่งลูกไปโรงเรียนนะ!!! (เอ่อ... ที่นี่เรียก childcare แต่ในภาษาไทยเรา มันก็คือโรงเรียนเตรียมอนุบาลดีๆนี่เอง)... นางเลยตัดสินใจเดินไปถามผอ.ว่าทำไมยูไม่สอนอะไรลูกชั้นเลย?? ผอ.เลยเล่าให้ฟังว่า...... มันเป็นนโยบายมาจากรัฐบาลอ่ะ คือ การศึกษาภาคบังคับที่นี่เริ่มตอน 5 ขวบ ในชั้นที่เรียกว่า kindergarten (เท่ากับอนุบาล 1 ที่เมืองไทย) ส่วน childcare นั้นเป็นแค่ทางเลือกให้แม่ๆที่ต้องทำงานแล้วไม่มีใครดูแลลูกให้... แต่มันไม่ใช่ภาคบังคับ.. แล้วก็มีเด็กหลายคนที่ไม่ได้ไปชายแคร์ แต่ไปเริ่มเรียนตอนคินดี้เลย... ทางรัฐบาลเองก็ไม่อยากกดดันให้ทุกบ้านต้องส่งลูกไป childcare เพราะกลัวว่าลูกตัวเองจะเสียเปรียบเด็กคนอื่นๆเวลาเข้าเรียนจริง... ก็เลยออกกฎมาให้ childcare ห้ามสอนวิชาการ เพราะต้องการให้เด็กทุกคน.. ทั้งพวก home school.. ทั้งเด็กที่มาจาก childcare.. หรือเด็กที่อยู่กับปู่ย่าตายาย-พ่อแม่เลี้ยงเอง ไปเริ่มพร้อมกันที่ kindy ตอน 5 ขวบ !!!

 

ดิฉันว่ารัฐบาลประเทศนี้กุ๊งกิ๊งมุ้งมิ๊งมากอ่ะ แอบมีมุม sensitive ห่วงใยประชาชนแบบเงียบๆ (ที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้) แทรกซึมอยู่ในทุกวงการ – อย่างในร้านอาหารก็มีกฏน่ารักๆอยู่ว่าถ้าลูกค้าขอน้ำเปล่าฟรี (tap water) ทุกร้านต้องเอามาให้.. จะมาบอกว่าไม่ให้ ไม่เสิร์ฟ มีแต่ mount franklin ขวดละ $2.60 นี่ไม่ได้นะคะ – ประมาณว่ายูเป็นร้านอาหาร คนเค้ามากินอาหาร จะไปบังคับขายน้ำเค้าด้วยนี่ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเกินไป... ดิฉันเป็นลูกค้ายังไม่เคยคิดเลย แต่รัฐบาลเค้าห่วงเวอร์ไว้ก่อน ดิฉันว่ามันก็น่ารักไปอีกแบบ ^^

 

ส่วนความกุ๊งกิ๊งมุ้งมิ๊งในวงการบ้านนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ รัฐบาลประเทศนี้อยากให้ทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเองมากกกก...!!! สังเกตุได้จากเงินช่วยเหลือบ้านหลังแรก และการยกเว้นค่า stamp duty สำหรับคนที่ซื้อบ้านใหม่ อะไรพวกนี้... ถึงจำนวนเงินมันจะลดลงเรื่อยๆ แต่เมื่อเทียบกับประเทศไทยเรา ก็ต้องถือว่ารัฐบาลประเทศนี้ยังมีความน่ารักอยู่มาก!!! ยิ่งช่วงหลังๆมานี่ (2-3 เดือนที่ผ่านมา) ดีกรีความฟรุ๊งฟริ๊งยิ่งเพิ่มขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ คราวนี้ผ่านมาทางหน่วยงานที่ชื่อว่า Australian Prudential Regulation Authority (APRA) ที่ออกกฏมาว่า... ทุกแบ้งค์สามารถโตจาก investment loan ได้แค่ปีละ 10% ถ้าใครอยากโตมากกว่านี้ให้หาทางเพิ่ม owner occupied loan เอา !!!

 

กฎเค้ามีมาแค่นี้จริงๆ แต่ละแบ้งค์ก็ต้องมาปรับนโยบายกันเอง... ทำยังไงให้ investment loan โตไม่เกิน 10% ทำยังไงคนถึงจะซื้อ owner occupied ได้เพิ่มขึ้น?? แต่ละแบ้งค์ก็มีกลยุทธิ์เป็นของตัวเอง ปรับเยอะ-ปรับน้อย ขึ้นอยู่กับ loan book ของแต่ละแบ้งค์ เช่น ลดดอกเบี้ย owner occupied ให้ถูกกว่า investment… ปรับ LVR ให้ owner occupied สามารถกู้ได้ 95% แต่ investment กู้ได้แค่ 80%... เอา negative gearing ใน investment loan ออก... หรือการจ่ายค่าประกัน LMI ให้ owner occupied อะไรพวกนี้ เป็นต้น

 

ที่ดิฉันเล่าไปข้างบน ลูกค้าอาจจะอ่านแล้วเข้าใจบ้าง-ไม่เข้าใจบ้าง... งั้นขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ คือ ช่วงนี้ทุกแบ้งค์กำลังแย่งลูกค้า owner- occupied กันอยู่... ถ้าใครที่กำลังจะซื้อ หรือต้องการรีไฟแนนซ์บ้านสำหรับอยู่อาศัย โทรหา New Era Finance ได้นะคะ ตอนนี้ดอกเบี้ยถูกสุดอยู่ที่ 4.15% (ขึ้นอยู่กับไฟล์ลูกค้า)

 

 

 

 

ส่วนใครที่จะซื้อไว้เป็น investment นี่ต่อไปจะยากขึ้นเรื่อยๆ ใครที่เคยจอง off-plan ไว้แบบพอดีเป๊ะ!!! เช่น เงินดาวน์ 10% เป๊ะ! กู้ 90% ผ่านพอดีเป๊ะ!! ดิฉันขอแนะนำให้เช็คกับทาง mortgage broker หรือ bank ของตัวเองดูอีกทีนะคะว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังกู้ได้อยู่รึเปล่า.. ต้องใช้เงินดาวน์เพิ่มรึเปล่า... ต้องจ่ายค่าประกันเองรึเปล่า.... รายได้พอมั๊ย... เตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงเวลา settlement จะได้ไม่ฉุกละหุก.. แล้วก็ขอให้สนุกกับการลงทุนในบ้านนะคะ ☺

 

 

 

ที่มา : http://www.newerafinance.com.au/  

Natui Website 2015-07-23 00:41:26 3586