2024-11-25

ดิฉันซื้อบ้านต่ำกว่าราคาตลาดได้ยังไง ???




Case Study: ดิฉันซื้อบ้านต่ำกว่าราคาตลาดได้ยังไง ???

 

เมื่อปีที่แล้วดิฉันมีงบจำกัดจำเขี่ยอยู่ก้อนนึง หลังจากทุบกระปุกหมูออกมาแล้ว...... สามารถซื้อบ้านได้ราคา 6 แสนนิดๆ แต่โจทย์ที่ยากกว่านั้น คือ พ่อ-แม่สามีดิฉันกำลังจะเกษียณ แล้วอยากมาอยู่ออสเตรเลียด้วยกัน !! ภายในงบจำกัด-จำเขี่ยที่มีอยู่ ดิฉันต้องหา (i) บ้าน/ทาวน์เฮ้าส์/ยูนิต อะไรก็ได้ที่มี 3 ห้องนอน (ii) ใน suburb ที่สามารถจะอยู่ได้โดยไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษ (ป๊า-ม๊ามาจากเมืองจีน) (iii) ในทำเลที่สามารถเดินถึงทุกอย่าง (ม๊าแกเมาเรือ เมาเครื่องบิน แถมยังเมารถบัส - -“) และ (iv) area ต้องไม่เถื่อนจนเกินไป เพราะดิฉันมีลูกน้อยหอยสังข์อยู่ด้วยคนนึง !!!

 

เชื่อมั๊ยคะ ว่ายากมว๊ากกกกกกกกก........... ดิฉัน search แล้ว search อีก... ไอ้ที่ไกลก็ไปทำงานลำบาก ไอ้ที่ใกล้ๆก็เกินงบไปเยอะ.. ในช่วงแรกๆก็หาสะเปะสะปะไปหมด ดู suburb โน้นที suburb นี้ทีมั่วไปหมด แต่ยังไม่เจออะไรที่ถูกใจ... เวลาเจอเพื่อนก็ถามทุกคนเลยนะ บ้านแกอยู่ไหน แถวนั้นคนจีนเยอะป่าว แล้วบ้านแพงมั๊ย?? จนเจอ suburb ที่ติ๊กถูกทั้ง 4 ข้อ ในงบที่มี คือ Kogarah... พอเลือก suburb ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ เลือกบ้าน..........

 

ก็นั่งคุยกับสามี-ป๊า-ม๊าเลยค่ะว่าอยากได้แบบไหน ช่วยกันลิสต์ออกมา แล้วก็จัดลำดับความสำคัญว่า จำเป็นต้องมี หรือถ้าได้ก็ดี... รายการสำคัญๆที่ต้องมีในตอนนั้น คือ (i) ครัวต้องเปิด (ii) ลมต้องโกรก (iii) แดดต้องส่อง (iv) ระเบียงต้องพอตากผ้า (v) ค่าส่วนกลางต้องถูก (vi) ตึกต้องใกล้สถานีรถไฟและแหล่งช็อปปิ้ง... อะไรพวกนี้ที่เป็นมติเอกฉันท์ของครอบครัวเรา.... เวลาไปดูบ้านแล้วถ้าสามีดิฉันมีข้อติที่เกินมา เช่น เสียงดังอ่ะ ดิฉันก็จะเอาลิสต์ที่ว่านี่ขึ้นมา.. ก็ม๊ายูอยากอยู่ใกล้สถานีรถไฟป่ะ?? หรือตึกไม่มีลิ๊ฟอ่า... ก็อันนี้ไม่อยู่ในลิสต์ไง คือเราอยากได้ตึกเรียบๆ ไม่มีสระ ไม่มียิม ไม่ต้องมีบริการอะไรมากมาย เพราะอยากประหยัดค่าส่วนกลางไม่ใช่เหรอ?? ถ้าจะหาให้ถูกใจสามีดิฉันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์นี่คงไม่ได้ซื้อกันพอดี เพราะฮีช่างสรรหาอะไรมาติได้ทุกหลัง เช่น ไม่ชอบเตาไฟฟ้า อยากได้เตาแกส... หรือไม่ก็ที่จอดรถไม่มีล็อค.. อะไรของฮีไปเรื่อย... ก็ต้องเอากระดาษวิเศษแผ่นนี้ออกมาแล้วเตือนฮีว่า นี่คือมติเอกฉันท์ของครอบครัวเรา... ถ้าหลังไหนติ๊กถูกทุกข้อที่อยู่ในลิสต์นี้ ดิฉันจะยื่น Offer ละนะ

 

ราคาที่ยื่นไปก็เป็นราคากลางๆ ราคาตลาดนี่แหละค่ะ ตอนนั้นดิฉันใช้วิธีซื้อ RP Data Report เป็นหลังๆไป คือชอบหลังไหนก็ซื้อ report มาดู ครั้งละ $20-$30 จำไม่ได้แล้ว [เดี๋ยวนี้จ่ายเงินเป็นรายปีแล้ว... ใครอยากได้ ไม่ต้องไปซื้อนะคะ ส่งที่อยู่มาทาง email เดี๋ยวดิฉันส่งให้ฟรี.. ไม่ได้ทำ loan กับดิฉันก็ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยๆคนไทยด้วยกัน เนอะ] เวลายื่น offer ก็ดูราคาที่เค้าโฆษณาไว้บ้าง ถ้าถูกกว่าก็ยื่นไปตามนั้น ถ้าแพงกว่าก็บอกเอเจ้นท์ไปว่า “I have done some research on the area, and I think this property worth about $$$$. Would you be able to ask the owner for me?” ดีนะ ที่นี่เค้าไม่มีวัฒนธรรมด่าพ่อ-ด่าแม่กัน ไม่งั้นป๊ากับม๊าคงไม่ได้หลับสบายอ่ะ – แต่ดิฉันก็ไม่ได้เสนอราคามั่วๆนะ ดิฉันก็อ้างอิงจากราคาบ้านที่ลักษณะใกล้เคียงกัน พวกยูนิต 3 ห้องนอนที่ขายใน suburb เดียวกัน ในปีเดียวกันนี่แหละ... ถ้าตึกไหนใหม่กว่าก็บวกให้ซัก 5% ถ้าห้องไหนมีห้องน้ำเดียวก็ลดไปซัก 5% ขนาดห้อง ถ้าเล็กกว่าห้องที่เราดูเยอะก็ลดไปอีก 3-5% ถ้าชอบมากๆก็อาจจะบวกให้อีก 3-5-7% ถ้าเอเจ้นท์ต่อมาอะไรแบบนี้... พอเห็นข้อมูลเยอะๆ เราก็พอจะประมาณได้แล้วว่า offer ที่สมเหตุ-สมผลควรจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ซึ่งจริงๆข้อมูลพวกนี้เอเจ้นท์ก็มีเหมือนกันแหละ แต่ช่วงนั้นบ้านมันอัพราคาได้ เค้าก็ต้องอัพไว้ก่อน เนอะ

 

ถ้าเค้าไม่ขายก็ไม่เป็นไร หาใหม่.. ถ้าเจอที่ติ๊กทุกข้อก็ยื่นไป.. ไม่ให้ก็หาใหม่... ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ มีตึกนึงดิฉันยื่นไปที่ $610K ตอนแรก offer accepted แล้วนะ ดิฉันรีบโอนเงินมัดจำไปให้เอเจ้นท์เลย นัดเซ็นต์สัญญากันวันถัดไป... แต่ยังไม่ทันได้เซ็นต์ เอเจ้นท์ก็โทรมาบอกว่ามีอีกคน offer $615K ยูขึ้นเป็น $620K ได้มั๊ย? ไม่ได้ค่ะ “I think $610K is the fair price already” ก็ต้องปล่อยให้หลุดไป... แล้วหาใหม่........ หาไปเรื่อยๆ ในที่สุดดิฉันก็เจอ...

 

ที่วัน Auction ค่ะ!!! เป็นยูนิต 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สภาพใกล้เคียงกับที่ยื่นไป $610K มาก.. ห้องครัวเล็กกว่านิดนึง แต่ห้องนอนมี walk-in-wardrobe... ตึกเก่ากว่ามาก แต่ก็ใกล้สถานีกว่าด้วย... ห้องรับแขกเล็กกว่าหน่อย แต่มี 2 ระเบียงให้ม๊าตากผ้าให้จุใจไปเลย... จากประสบการณ์ในพื้นที่ ดิฉันดูยูนิต 3 ห้องนอนใน Kogarah กับ Rockdale มาเป็นสิบๆห้อง ดิฉันมีราคาในใจให้ไม่เกิน $600K...................................... เชื่อมั๊ยคะว่าราคาปิดประมูลไปที่ $555K !!!!!!!

 

โมเม้นต์นั้น ทุกคนมองหน้ากันไป-มา.. ทั้งคนขาย เอเจ้นท์ แล้วก็ดิฉันกับสามี... ดิฉันเชื่อว่าทุกคนรู้ดีว่าราคามันไม่ต่ำกว่า $600K แต่มันไม่มีคนประมูลต่อไง !!! มารู้ทีหลังว่า.. ก่อนหน้านี้เคยมีคน offer ไปที่ $570K - $580K แล้วแต่คนขายไม่ปล่อย เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องขายได้ไม่ต่ำกว่า $600K แน่นอน.. เลยบอกให้เปิดประมูล.... เอเจ้นท์เล่าว่าโทรไปบอกทุกคนที่เคยยื่น offer แล้วแต่ไม่มีใครมา เพราะคิดว่าเจ้าของเปิดประมูลเพราะต้องการอัพราคาแน่เลย... วันประมูลเลยมีแต่พวกสังเกตุการณ์ กับพวกที่ไม่ชอบ คือมันติ๊กทุกข้อในลิสต์ของดิฉันก็จริง แต่อาจจะไม่ติ๊กถูกในลิสต์คนอื่นไง เพราะข้อติของห้องที่ดิฉันได้มาก็มีอยู่บ้าง เช่น ตึกเก่า ไม่มีลิ๊ฟ เสียงดัง (เพราะใกล้สถานีรถไฟ) อะไรพวกนี้...... แต่พวกนั้นดิฉันไม่มายด์ไง ได้ห้อง $600K มาในราคา $555K แค่เริ่มต้นก็กำไรไป $45K แล้ว.... ซื้อมาครบปีนึง ส่งแบ้งค์ไปประเมิณราคาใหม่ ได้มา $670K… เห็นตัวเลขแล้วยิ่งรู้สึกว่าตัดสินใจถูกอ่ะ ^^

 

อ่ะ!! นั่นมันเรื่องของปีที่แล้ว.... ตอนนี้ตลาดอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้...... แต่......... แต่...... แต่.......... เมื่อเร็วๆมานี่ รุ่นพี่ดิฉันก็เพิ่งได้บ้าน $550K มาในราคา $500K อ่ะ!! เร็วๆนี้แบบเพิ่งจะ settle ไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เลย... ถ้าใครได้คุยกับพี่เค้าก็จะได้ฟัง story คล้ายๆกันนี่แหละ คือ พี่งบน้อย ไปดูมาหมดแล้ว ดูไปจนถึง New Castle ดูไปถึง Woollongong โน่นนน.. สุดท้ายก็มาลงตัวที่ NARELLAN VALE ใกล้ๆ Campbelltown ซึ่งมันก็เป็นเมืองใหม่ ดูแล้วปลอดภัย น่าอยู่ ใกล้ทะเล ในงบที่มีพอซื้อบ้าน 3 ห้องนอน แบบมีบริเวณให้ลูกวิ่งเล่นได้เลย... เสียอย่างเดียวคือไกลไปหน่อย แต่พี่นั่งเล่นมือถือบนรถไฟแป๊บๆก็ถึงที่ทำงานแระ ก็เลยไม่วอรี่ตรงนั้น... ส่วนราคาที่ได้มาเหรอ?? พี่ก็ดูแถวนั้นเยอะๆ เห็นหลังนี้ก็รู้แล้วว่าไม่ต่ำกว่า $550K แน่ๆ แต่พี่งบน้อยยยยย... ก็บอกเอเจ้นท์ไปตรงๆว่าให้ได้แค่ $500K นี่แหละ ยูช่วยไอหน่อยได้มั๊ย?? ลูกสาวที่ไปด้วยกันก็ช่วยกันอ้อนๆๆๆ แล้วไม่รู้พี่เค้าไปคุยกับเอเจ้นท์ยังไง ถึงรู้ว่าเค้าเป็นแฟนลิเวอร์พูลเหมือนกัน.. ก็ชวนคุยเรื่องบอล เรื่องนักเตะ เยอะๆ แล้วก็ได้มานี่แหละ !!!

 

เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า... เจ้าของซื้อมาแค่ $280K ตั้งแต่ปี 2006 (ถึงจะกำไรน้อยกว่าที่ตั้งใจไว้ $50K แต่ก็ยังกำไรตั้ง $220K) ส่วนเหตุผลที่เอเจ้นท์ยอมช่วยไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับลิเวอร์พูลมากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆเจ้าของบ้านเพิ่งได้งานใหม่ที่อเมริกา เลยอยากจะรีบๆขายให้เสร็จ จะได้ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลังกับบ้านที่นี่... วันที่พี่เค้าไปดูเป็นวันเปิดบ้านวันแรก.. พี่เค้ายื่น offer ไปคนแรก แล้วก็คนเดียวในวันนั้น พูดง่ายๆพี่โชคดีอ่ะ... แต่ดิฉันว่าแค่ ‘โชคดี’ อย่างเดียวไม่พอหรอก พี่ต้องใจกล้าด้วย ของอย่างนี้ไม่ลองก็ไม่รู้ เนอะ – ถ้าได้ก็โชคดีไป ถ้าไม่ได้ ก็หาใหม่ แค่ยืน offer เฉยๆเราไม่ได้เสียอะไรอยู่แล้ว

 

ช่วงนี้ใครๆก็บอกว่าบ้านแพง เห็นวงเงินที่แบ้งค์อนุมัติมาแล้วอยากจะเอาหัวโขกกำแพง.. จะไปหาบ้านในงบแค่นี้ได้ที่ไหนเล่า !!?!? ขนาดบ้านโง่ๆง่อยๆบางหลัง เห็นราคาประมูลไปแล้วยังช็อค... อย่าไปตื่นตูมตามตลาดค่ะ!!! ใครอยากซื้อแพงก็ปล่อยเค้าไป.. แต่เราต้องมีสติ เสนอราคาที่เรา ‘คิดว่า’ สมเหตุ-สมผลก็พอค่ะ อาจจะเสียเวลาตอนหานิดนึง... แต่พอเจอแล้วจะภูมิใจมาก เก็บไว้เล่าให้ลูก-หลานฟังได้เลยนะว่าบ้านหลังนี้พ่อแม่ได้มาได้ยังไง... แต่ก่อนจะเริ่มหาบ้าน หรือไปร่วม Action อย่าลืมทำ pre-approval ไว้ก่อนนะคะ เวลาเจอของที่ ‘ชอบ’ ในราคาที่ ‘ใช่’ จะได้รีบวางมัดจำ เซ็นต์สัญญาได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาตัดหน้า.. ใครที่ยังไม่มี pre-approval ให้ New Era Finance ทำให้ได้นะคะ บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น... ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังมองหาบ้านนะคะ สู้สู้!!! ☺

 

ปล. ดิฉันมียูนิต/บ้าน 3 หลัง แต่ก็ไม่ได้ซื้อถูกแบบนี้ทุกหลังนะคะ – อีก 2 หลังก็ซื้อราคาตลาดธรรมดานี่แหละ

ปล.2. ถึงตอนนี้แล้วดิฉันก็ยังไม่ได้ย้ายไปอยู่ยูนิต 3 ห้องนอนที่ Kogarah ที่เล่าไปนะคะ.. เดี๋ยวนี้ม๊าแกสะโพกไม่ค่อยดี ขึ้น-ลงบันไดไม่สะดวก ตอนนี้ดิฉันกำลังหาบ้านใหม่ในโจทย์แบบเดิม แต่มีเพิ่มมา 2 ข้อ คือ (i) ต้องมีลิฟท์ หรืออยู่ชั้น 1 และ (ii) ต้องมีที่ให้ป๊าปลูกผัก.... เอาไว้ถ้าหาได้แบบถูกๆดีๆจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ^^

 

 

ที่มา : New Era Finance

Natui Website 2015-08-14 00:47:39 5508