วิวัฒนาการของ “หนี้” ที่คนส่วนมากยังตามไม่ทัน
ทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ก็ล้วนแล้วแต่มีวิวัฒนาการกันทั้งนั้น...ยกตัวอย่าง เช่น วัฒนธรรมการกิน ถ้าใครยังจำได้สมัยปู่-ย่า-ตา-ยายพวกเรานี่ทุกบ้านต้องทำอาหารกินกันเอง จะออกไปกินนอกบ้านเฉพาะโอกาสสำคัญๆเท่านั้น.. ต่อมาก็เริ่มมี fast food… มี lunch special... มีร้านอาหารสไตล์บ้านๆ ราคาไม่แพง ที่ทุกคนสามารถกินได้บ่อยขึ้น... ไปจนถึงบริการ home delivery… ไปจนถึงพวกอาหารสำเร็จรูปทั้งเครื่องแกงโลโบ้เอย น้ำพริกแม่นอมเอย ไปยันสารพัดอาหารกระป๋อง และบรรดาอาหารแช่แข็งทั้งหลายแหล่... จนทุกวันนี้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องเข้าครัวทำอาหารเลยด้วยซ้ำ!!!
หรือวัฒนธรรมการดูหนัง ฟังเพลง แฟชั่น J-Pop, K-Pop.. รายการข่าวจากที่พิธีกรเคยใส่สูท-ผูกไท เดี๋ยวนี้ก็ต้องหาสาวๆ แต่งตัวสวยๆ มานั่งเม้าท์มอยข่าวให้ฟัง... รวมไปถึงวิวัฒนาการในด้านการสื่อสาร การใช้มือถือ การแช็ท ออนไลน์ เฟสบุ๊คที่เดี๋ยวนี้แม้แต่อาอึ้ม-อาแปะ-อาเจ็คดิฉันก็มาเล่นกันครบทุกคนแล้ว... ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ค่านิยมต่างๆ คือคนส่วนมากตามทันไง!! โลกไปไหน.. เราก็ไปกับโลกด้วย... ยกเว้นเรื่อง “หนี้” ที่คนส่วนมากยังตามไม่ค่อยทัน... หลายคนยังคงรู้จัก “หนี้” ในแบบที่คุณตา-คุณยายเคยสอนไว้.. โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งเล็กๆที่เรียก “หนี้” เค้าก็มีวิวัฒนการเหมือนทุกอย่างรอบตัวเรานี่แหละ
ย้อนกลับไปเมื่อร้อยปีก่อน คำว่า “หนี้” นี่มีไว้สำหรับคนที่ “ไม่มี” เท่านั้น... คือเค้ามีไม่พอไง ถึงได้ต้องไปขอยืมเพิ่ม.. สภาพลูกหนี้เมื่อร้อยปีก่อนนี่ต้องขอร้อง อ้อนวอน แทบจะต้องกราบ teen เจ้าหนี้กว่าขอยืมมาได้แต่ละก้อน.. ส่วนเจ้าหนี้น่ะเหรอ เมื่อก่อนเราจะคิดถึงหน้าท้าวแชร์แม่ชะม้อย ที่บารมีคับซอย ไปไหนมาไหนทุกคนต้องคอยเกรงอก-เกรงใจนาง... แม่ดิฉันยังเคยสอนเลยว่า “การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ” จนถึงทุกวันนี้แม่ก็ยังไม่ค่อยปลื้มกับอาชีพ mortgage broker ของดิฉันซักเท่าไหร่.... ทำอะไรไม่ทำ ดันมาช่วยอำนวยความสะดวกให้คืนอื่น ‘สร้างหนี้’ เนี่ยะนะ ต่อมศิลธรรมแม่ยังบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นสัมมาอาชีพรึเปล่า -_-?
แต่สิ่งนึงที่แม่ไม่รู้คือ “หนี้” ในสมัยนี้กับเมื่อร้อยปีก่อนมันได้วิวัฒนาการมาไกลมากกกก... ที่เมืองไทยอาจจะยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ที่ประเทศออสเตรเลียนี่สถาบันทางการเงินต่างๆได้พยายามปรับภาพลักษณ์ของ ‘debt’ ให้กลายเป็น ‘credit’... จะเพื่อความสบายใจของคนทำงานในสายอาชีพนี้ หรือเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าดิฉันก็ไม่ทราบได้... แต่ที่แน่ๆ ‘หนี้’ ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่ ‘ไม่มี’ อีกต่อไป... แต่มีไว้สำหรับคนที่ ‘มี’ และคนที่ ‘มั่งคง’ เท่านั้น... เราเรียกมันว่าการให้เครดิต ให้ยืมล่วงหน้า เพราะเชื่อว่าในอนาคตเค้าจะมีเงินมาจ่ายคืนแน่นอน
ถ้าไม่เชื่อ ลองไปบอกแบ้งค์ว่าตกงาน ไม่มีเงิน แล้วขอยืมเงินดูหน่อยสิ.. แบ้งค์จะตกอก-ตกใจ-ไอ-แอม-ซอรี่ ไอช่วยยูไม่ได้หรอก บลาๆๆๆๆๆ ... แต่ในขณะเดียวกันใครที่มีเงินฝากเยอะๆ แบ้งค์ก็จะถามอยู่นั่นแหละ ยูจะซื้อบ้านมั๊ย ยูวางเงินดาวน์แค่ 20% ก็พอ เดี๋ยวอีก 80% ไอให้ยืมเอง คือกระตือรือร้นอยากให้ยืมมากว่างั้น... ส่วนสภาพเจ้าหนี้ทุกวันนี้ก็ต้องพินอบพิเทาเอาใจลูกค้ากันสุดๆ ทั้งแบ้งค์ ทั้งโบร๊คเกอร์ ทุกวันนี้แทบจะต้องเป็นฝ่ายกราบ teen ลูกค้าแทน คือ ช่วยมาใช้บริการกรูหน่อยเห๊อออออ... อยากได้อะไรขอให้บอก.. แบ้งค์ไหนให้เรทเท่าไหร่ วงเงินเท่าไหร่ บอกมา เดี๋ยวดิฉันจะหาที่ดีกว่ามาให้พิจารณา!!!!
เมื่อ ‘หนี้’ ได้วิวัฒนาการไปไกลขนาดนี้ เราในฐานะลูกค้าก็ต้องปรับตัวตามให้ทัน (1) คุณต้องเป็นฝ่ายเลือก.. อย่าหยุดแค่แบ้งค์เดียว ไม่ใช่ว่าเป็นลูกค้าแบ้งค์นี้มา 20 ปี ซื้อบ้านกับเค้ามาแล้ว 5 หลัง.. หลังที่ 6 ดูไว้ที่ $1.7 ล้านแต่แบ้งค์ให้ได้แค่ $1.6 ล้านก็ถอดใจ... ไฟล์แบบนี้มาหาโบร๊คเกอร์เถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นดิฉันก็ได้ แต่ใช้โบร๊คเกอร์เถอะค่ะ พวกเราช่วยคุณได้จริงๆ (2) อย่ารอให้ ‘ไม่มี’ แล้วค่อยตาลีตาเหลือกวิ่งมาหาโบร๊คเกอร์... ทางที่ดีคุณควรจะ ‘plan for the best, yet prepare for the worst’ ไว้เสมอ ตอนนี้เรายังแข็งแรงทำงานได้เงินดี แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุ โดนยุงลายกัด เกิดมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้รายได้ก๊อกแรกไม่ไหล เราได้เตรียมก๊อกสองไว้รึยัง?? ดิฉันไม่ได้ขายประกันนะคะ แต่แนะนำเลยว่าทุกคนควรทำ Income Protection, Illness & Tumour Protection, Life Insurance ไว้ด้วย.. เพราะเราไม่รู้ว่ารายได้ก๊อกแรกของเราจะสะดุดเมื่อไหร่ ประกันพวกนี้ดิฉันถือว่าเป็นรายได้ก๊อกสอง... ส่วนก๊อกที่ 3 หนังสือการเงินหลายเล่มแนะนำไว้ว่าเราควรจะมีเงินเก็บเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 6 เดือน ถ้าใครที่มีอยู่แล้วก็โชคดีไป แต่ถ้าใครที่ยังไม่มี ดิฉันว่าควรพิจารณา ‘ขอเครดิต’ ล่วงหน้าไว้ก็ดีนะคะ ทำ equity release ออกมาจากบ้าน... เปิด credit card… เปิด personal loan ไว้ซักหน่อยก็ยังดี เลือกแบบที่ถ้าไม่ใช้ก็ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย แล้วก็พึงมีสติระลึกไว้เสมอว่านี่คือเงินก้อนก๊อกที่ 3 ที่เราจะเอามาใช้ก็ต่อเมื่อก๊อกแรกและก๊อกสองไม่ไหลแล้วเท่านั้น....
อย่าลืมนะคะ!! ‘สินเชื่อ’ เป็นเรื่องของคนที่ ‘มี’ และ ‘มั่นคง’ คุณจะมีอำนาจต่อรอง ทุกแบ้งค์-ทุกโบร๊คเกอร์จะเป็นฝ่ายง้อคุณก็ต่อเมื่อคุณ ‘มีเครดิต’..... ที่ New Era Finance เราอยู่กับ ‘เครดิต’ ทุกวัน.. ทั้งเรท วงเงิน นโยบายแบ้งค์ อัพเดทจากสถาบันการเงินต่างๆ เราสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละคนได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น... ถ้าต้องการที่ปรึกษาด้านสินเชื่อ ปรึกษา New Era Finance สิคะ โทร 0421 809 669 (เอ) 0467 662 431 (ตุล)
ที่มา : New Era Finance