Vivid Sydney คือเทศกาลแสดงแสงสี ดนตรี และความคิดสร้างสรรค์งานใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 8 แล้ว โดยมี Destination NSW องค์กรการท่องเที่ยวและการจัดงานแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นผู้จัดและบริหารจัดการ สำหรับงาน Vivid Sydneyในปีนี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม ไปจนถึงวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2016
Sandra Chipchase ซีอีโอของ Destination NSW และผู้อำนวยการผลิตของ Vivid Sydney กล่าวว่า "ในปีนี้ Vivid Sydney กลับมาอีกครั้งพร้อมโปรแกรมสุดตื่นตาตื่นใจ ซึ่งศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมมาบรรจบกัน โดยมีเจ้าบ้านอย่างชาวออสเตรเลียและผู้มาเยือนจากทั่วโลกร่วมเฉลิมฉลองไปพร้อมๆกัน"
"Vivid Sydney ได้ศิลปินประดับไฟระดับโลกมารังสรรค์ Vivid Light อันตระการตา มีนักดนตรีระดับตำนานมาสร้างความเพลิดเพลินในคอนเสิร์ต Vivid Music และมีนักนวัตกรรมมาร่วมแชร์ความคิดสร้างสรรค์ใน Vivid Ideas ทั้งนี้ ในปีที่แล้วมีผู้เข้าร่วมเทศกาลกว่า 1.7 ล้านคน ส่วนในปีนี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของ Vivid Sydney ยาวนานกว่าเดิมและยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา"
ภาพ Songlines
เริ่มต้นด้วยการเฉลิมฉลองผลงานศิลปะอันงดงามหลากหลายของศิลปินพื้นเมืองออสเตรเลีย ผ่านการฉายภาพ Songlines ลงบน Sydney Opera House สิ่งก่อสร้างซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งควบคุมการแสดงโดย Rhoda Roberts หัวหน้าฝ่ายวางโปรแกรมของ Sydney Opera House ซึ่งเป็นชาวอะบอริจินดั้งเดิมในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ร่วมด้วยศิลปินพื้นเมืองอีก 6 ชีวิตที่จะมานำเสนอผลงานศิลปะซึ่งผสานศาสตร์แห่งดวงดาวและผืนโลกเข้าไว้ด้วยกัน เกิดเป็น Songlines ที่ถักทอแผ่นดินและแผ่นฟ้าผ่านกาลเวลาและหนทางอันยาวไกลเอาไว้เป็นผืนเดียว
ขณะเดียวกันยังมีการประดับไฟที่ Chatswood, Central Park, Darling Harbour, Australian National Maritime Museum และ Martin Place ดังเช่นทุกปี ที่เพิ่มเติมเข้ามาในปีนี้คือ The Galeries พื้นที่จัดแสดงในอาคารแห่งแรกของเทศกาลนี้ รวมถึงสถานที่สำคัญอย่าง Royal Botanic Garden Sydney และ Taronga Zoo ซึ่งกำลังฉลองครบรอบการก่อตั้งในปีนี้พอดี
ณ Garden of Light ผู้มาเยือนจะได้ตื่นตาตื่นใจกับแสงไฟระยิบระยับใน Royal Botanic Garden Sydney ซึ่งกำลังฉลองครบรอบ 200 ปี พร้อมประทับใจไปกับ Cathedral of Light ซึ่งเป็นการประดับไฟ LED สีขาวนวลนับแสนดวงที่เปล่งแสงเจิดจรัสจากทุกมุมตลอดทางเดินยาว 60 เมตร
ด้าน Taronga Zoo จะจัดแสดงประติมากรรมสื่อผสม Be the Light for the Wild เกี่ยวกับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ 10 ชนิด ตั้งแต่สัตว์ใหญ่อย่างช้างเอเชียไปจนถึงกบคอร์โรโบรีสีสันจัดจ้าน พร้อมให้ผู้ชมได้ร่วมฉลองไปกับงานครบรอบ 100 ปีของสวนสัตว์แห่งนี้
ส่วน Vivid Music จะทำให้ทั้งเมืองขยับไปพร้อมกับเสียงดนตรีและสถานที่จัดงานใหม่ๆ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การเปิดตัว Bjork Digital โปรเจคท์เสมือนจริงจากศิลปินดังระดับโลก และการเปิดตัว Curve Ball การแสดงศิลปะและดนตรีสดสุดอลังการจาก Fuzzy Music ณ Carriageworks
สำหรับ Vivid LIVE ณ Sydney Opera House จะมีการแสดงอันน่าตื่นตามากมาย ทั้งจากเจ้าของตำนานเพลงซินธ์ป็อป New Order, วงดนตรีอินดี้โฟล์ค Bon Iver, ศิลปินเพลงแจ๊ส Esperenza Spalding และศิลปินดัง Anohni จะมาวาดลวดลายในการแสดงสื่อผสมอันน่าทึ่งเป็นครั้งแรกในออสเตรเลียด้วย
ด้าน Sydney Conservatorium of Music จะจัดการแสดง The Sound Gardens: Vivid New Music โดยเหล่านักศึกษามากพรสวรรค์ ร่วมด้วยศิลปินรับเชิญอย่าง Natasha Anderson, Anthony Pateras และ Clayton Thomas ส่วนการแสดงดนตรีฮิปฮอปแบบออสซี่จะจัดขึ้นที่ Come Together @ Luna Park และ One Day Sundays ซึ่งตั้งอยู่ใน The Factory ย่านมาร์ริกวิลล์ นอกจากนี้ วงดนตรี Models ผู้บุกเบิกเพลงยุค 80 และขึ้นทำเนียบ ARIA Hall of Fame รวมถึงวง Machinations ที่ดังไม่แพ้กัน และวง The Reels ที่มี Dave Mason เป็นนักร้องนำ จะเข้าร่วมในการแสดง The Models, Machinations & The Reels ที่ Enmore Theatre เพียงคืนเดียวเท่านั้น
สำหรับสถานที่อื่นๆ ที่ร่วมจัดแสดง Vivid Music ในปีนี้ประกอบด้วย Newtown Social Club และสถานที่ใหม่แกะกล่องอย่างCake Wines Cellar Door รวมถึงสถานที่ยอดนิยมที่กลับมาจัดงานอีกครั้งอย่าง Oxford Art Factory, Freda's และ The Basement
ในส่วนของ Vivid Ideas จะมีการพูดคุยในหัวข้อ Game Changers โดยนักเล่าเรื่องผู้มีชื่อเสียงในวงการ เช่น Spike Jonze ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์คนดัง, Beau Willimon ผู้สร้างสรรค์ซีรีส์เรื่อง House of Cards, Jenji Kohan ผู้อยู่เบื้องหลังซีรีส์ Orange is the New Black และ Margaret Zhang ครีเอทีฟหน้าใหม่ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในออสเตรเลีย
ติดตาม Highlight ของงาน ได้ที่ : http://www.vividsydney.com
ที่มา : http://en.prnasia.com/p/asia-story-16474-0.shtml