เนื่องจากเราเป็นมนุษย์ไม่ใช่หุ่นยนต์ บางครั้งก็ต้องมีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นของธรรมดา แล้วสำหรับมนุษย์เงินเดือนเนี่ย เวลาป่วยก็อยากจะลางานเพื่อพักผ่อนให้หายดี ก็ต้องแจ้งเจ้านายไว้หน่อย แต่พอเจ้านายถามต่อว่าป่วยเป็นอะไร ก็นึกคำศัพท์ไม่ค่อยจะออก นึกได้อย่างเดียว คือ Sick ป่วยกี่ครั้งกี่หน ก็ได้แต่ตอบว่า Sick ตลอด
พอกันที! วันนี้ เรามาเรียนรู้ศัพท์ฉบับลาป่วยกันเถอะค่ะ เผื่อคราวหน้าเจ้านายถามว่าป่วยเป็นอะไร จะได้ตอบได้ถูก
คำนี้คงคุ้นเคยกันดี แปลว่า ปวดศีรษะหรือปวดหัว นั่นเองค่ะ
ตัวอย่างประโยค
I have a bad headache today.
วันนี้ฉันปวดหัวมากเลย
คำนี้แปลว่า ปวดฟัน ค่ะ จะปวดหนึ่งซี่ สองซี่ หรือทั้งปาก ก็ใช้ Toothache นะคะ
ตัวอย่างประโยค
I have a toothache and I need to go to the dentist.
ฉันต้องไปพบทันตแพทย์เนื่องจากฉันปวดฟัน
คำนี้แปลว่า ปวดท้อง ค่ะ จะใช้สำหรับปวดหน่วงๆ ปวดจี๊ดๆ ปวดเสียดๆ หรือปวดแบบสันนิษฐานไม่ได้ ก็สามารถใช้คำนี้ได้ค่ะ แต่ ยกเว้นอาการ ท้องเสีย จะมีคำศัพท์เฉพาะนะคะ
ตัวอย่างประโยค
The orange juice was giving me stomachache.
น้ำส้มคั้นนั่นทำให้ฉันรู้สึกปวดท้อง
คำนี้แปลว่า ท้องเสีย หรือ ท้องร่วง ค่ะ อันนี้จะแตกต่างจากการปวดท้องทั่วๆ ไปนะคะ ถ้าเป็นการปวดท้องทั่วไปไม่มีอาการขับถ่ายผิดปกติ เราใช้ Stomachache แต่ถ้าเมื่อไรปวดท้องและมีการขับถ่ายผิดปกติร่วมด้วย ให้ใช้คำนี้ได้เลยค่ะ
ตัวอย่างประโยค
Whenever I go abroad, I suffer from jet lag and diarrhea.
เมื่อไรที่ฉันต้องเดินทางไปต่างประเทศ ฉันต้องทุกข์ทรมานกับอาการเจ็ทแล็กและท้องเสียตลอดเลย
คำนี้แปลว่า อาหารเป็นพิษ ค่ะ ส่วนมากจะเกิดจากการรับประทานอาหารผิดสำแดง นอกจากจะมีอาการท้องเสียแล้ว จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วยค่ะ จำง่ายๆ ว่าถ้าท้องเสียเพียงอย่างเดียวให้ใช้ Diarrhea แต่ถ้าคลื่นไส้ด้วยให้ใช้ Food poisoning ค่ะ
ตัวอย่างประโยค
Today, I’m not feeling well because of food poisoning.
วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเลย คงเพราะอาหารเป็นพิษ
คำนี้แปลว่า เป็นไข้ ตัวร้อน ค่ะ ต่างจาก Sick ที่หมายถึงป่วยเฉยๆ แต่ไม่มีอาการตัวร้อน ถ้าเมื่อไรที่ป่วย ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว แล้วมีอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ให้ใช้คำ Fever ค่ะ
ตัวอย่างประโยค
The doctor told me to stay in bed until my fever goes down.
คุณหมอบอกให้ฉันนอนเฉยๆ อยู่บนเตียงจนกว่าไข้จะลดลง
คำนี้แปลว่า เจ็บคอ หรือมีอาการระคายเคืองในลำคอ ส่วนมากมักจะเกิดร่วมกับการเป็นไข้หวัด หรือบางทีเกิดจากการใช้เสียงมากเกินไปค่ะ
ตัวอย่างประโยค
I have a sore throat and runny nose.
ฉันมีอาการเจ็บคอและน้ำมูกไหล
คำนี้แปลว่า น้ำมูกไหล ค่ะ ใช้สำหรับอาการที่มีน้ำมูกในจมูก รู้สึกไม่สบายตัว แต่ไม่ใช้แทนอาการจามนะคะ เพราะคำว่า จาม มีคำศัพท์เฉพาะ คือ Sneeze ค่ะ
ตัวอย่างประโยค
I’m feeling quite sick; I have a bad cough, a high fever, and a runny nose.
ผมรู้สึกป่วยมาก มีอาการไอหนัก ไข้ขึ้นสูง แถมมีน้ำมูกไหล
คำนี้แปลว่า ไอ ค่ะ แต่การ ไอ นั้น จะมีหลายประเภท ถ้าไอแห้ง ให้ใช้ dry cough ถ้าไอมีเสมหะ ใช้ wet cough
ตัวอย่างประโยค
I have a headache and I am suffering from a cough.
ผมปวดหัวแถมยังทรมานกับอาการไออีกด้วย
สำหรับอาการนี้ พบเจอได้บ่อยสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิส เพราะเป็นหนึ่งในอาการยอดฮิตของโรคออฟฟิส ซินโดรม นั่นก็คือ Backache ที่แปลว่า ปวดหลัง ค่ะ เนื่องมาจากการนั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ตลอดจนลักษณะท่านั่งที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้เกิดอาการปวดหรืออักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณหลังได้นั่นเองค่ะ
ตัวอย่างประโยค
I have a backache right now and I need to rest.
ตอนนี้ผมมีอาการปวดหลัง และจำเป็นต้องหยุดพักครับ
คำนี้แปลว่า เคืองตา ค่ะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาการของคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือจ้องหน้าจอมือถือบ่อยๆ ก็อาจจะมีอาการระคายเคืองในดวงตาได้
ตัวอย่างประโยค
I’ve had sore eyes for 3 days and I don’t know what to do.
ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรดี ฉันรู้สึกเคืองตามสามวันแล้ว
คำศัพท์แถมสำหรับคุณสาวๆ ทั้งหลาย ที่มีอาการปวดท้องประจำเดือน ซึ่งเจอกันตลอดทุกเดือนๆ แต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี ได้แต่บอก Stomachache หรือบางทีบอกว่า เมนส์ ฝรั่งก็งงอีก ถ้ามีอาการแบบนี้ให้ใช้ Period pain หรือ Period cramps นะคะ แปลว่า ปวดท้องเนื่องมาจากประจำเดือน แต่ถ้าประจำเดือนมา (ไม่ได้ปวดท้อง) ให้ใช้ว่า I’m on my period. ก็ได้เหมือนกันค่ะ
ส่วนอาการเหวี่ยงวีน อารมณ์แปรปรวนก่อนมีประจำเดือนนั้น เรียกว่าอาการ PMS ซึ่งย่อมาจาก Premenstrual syndrome เวลาอยากจะบอกคุณผู้ชาย ว่าเราเหวี่ยงเพราะจะมีประจำเดือนนั้น ให้พูดว่า I have PMS สั้นๆ แต่เข้าใจได้ (เพราะถ้าไม่เข้าใจจะโดนเหวี่ยงนะจ๊ะ)
ตัวอย่างประโยค
I’m having period cramps!!
ตอนนี้ฉันปวดท้องเมนส์มากๆ
ทีนี้ถ้าป่วยขึ้นมาจะปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไอ จาม ฯลฯ จะอาการแบบไหน ก็สามารถอธิบายได้แล้วใช่ไหมคะ เวลาเขียนอีเมลหรือโทรแจ้งหัวหน้า ใครมีอาการป่วยแบบไหนอย่าลืมยกขึ้นมาบอกนะคะ
Source: http://dailyenglish.in.th