โฆษก สธ. เตือนประชาชนที่ชอบดื่มเหล้า เบียร์ ระวังโรคเก๊าท์เยือนมีผลวิจัยต่างประเทศระบุชัดเจน คนดื่มสุราจะมีความเสี่ยงโรคนี้สูงกว่าคนปกติเกือบ 2 เท่าตัว ส่วนผู้ที่ดื่มเบียร์ทุกวันความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า และหากดื่มสุราและควบสูบบุหรี่ด้วยจะมีโอกาสเกิดมะเร็งช่องปากสูงถึงร้อยละ 90
นางนิตยา จันทร์เรือง มหาผล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ได้สร้างผลกระทบมากทั้งสุขภาพคนดื่ม ครอบครัว สังคม จากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 15 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด ผู้ดื่มส่วนใหญ่เป็นชายถึง 13 ล้านคน โดยเฉพาะจุดที่น่าห่วงพบว่า หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ประมาณ 1 ใน 4 ยังไม่เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเด็กในครรภ์อาจทำให้ลูกพิการ แคระแกรน เสี่ยงปัญญาอ่อนแต่กำเนิด เพราะสมองถูกทำลาย และเด็กที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นคนติดเหล้าถึงร้อยละ 10
นางนิตยา กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ติดตามมาจากการดื่มสุราได้อีกก็คือ การเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ โดยเฉพาะโรคเก๊าท์ ซึ่งจะทำให้เกิดความทุกข์ทรมานมาก เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาวิจัยแล้วพบว่าการดื่มสุรา รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทเบียร์ด้วย เป็นสาเหตุให้เกิดโรคเก๊าท์ได้ การวิจัยครั้งนี้ได้ทำการติดตามผลกระทบทางสุขภาพของผู้ชายที่ดื่มสุรา จำนวน 47,000 ราย ติดต่อกันเป็นเวลากว่า 12 ปี ในจำนวนนี้ ตรวจพบว่าเป็นโรคเก๊าท์ทั้งหมด 730 ราย สำหรับโรคเก๊าท์นั้น เกิดจากการเผาผลาญพิวรีน หรือนิวคลิโอโปรตีน ในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีกรดยูริคคั่งในเลือด และตามข้อเล็ก ๆ โดยนักวิจัยพบว่า การดื่มเบียร์วันละ 2-3 แก้ว จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเก๊าท์มากกว่าคนที่ไม่ดื่มเบียร์ถึง 2 เท่าครึ่ง และหากดื่มสุราวันละ 2-3 แก้ว จะเสี่ยงเป็นเป็นโรคเก๊าท์ มากกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 1.6 เท่าตัว นักวิจัยพบว่า เหตุที่คนดื่มเบียร์เสี่ยงโรคเก๊าท์สูงกว่าคนดื่มสุรา เนื่องจากพบสารพิวรีนในเบียร์ในปริมาณมาก จึงเป็นตัวเพิ่มกรดยูริคในเลือดมากขึ้นได้ ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้ที่เคยดื่มเบียร์ – สุรามากกว่าวันละ 2 แก้ว ให้ลดการดื่มให้น้อยลง และหากหยุดดื่มได้ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น และจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคไตวาย ซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนของโรคเก๊าท์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
นางนิตยา กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับในกลุ่มคนที่ดื่มสุราจัดและสูบบุหรี่ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งในบรรดาคนกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า การสูบบุหรี่ไปพร้อม ๆ กับการดื่มสุรา จะทำให้เกิดอรรถรสในวงดื่ม คนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นลองสูบได้ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิจัยพบว่า คนดื่มสุราจัดและสูบบุหรี่ด้วยจะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งในช่องปากได้พอ ๆ กับการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา ไวรัสซึ่งพบที่อวัยวะเพศชายจากการทำออรัลเซ็กซ์ และเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งที่ปากได้เช่นกัน ทั้งนี้ การวิจัยดังกล่าวได้ศึกษาในกลุ่มคนป่วยโรคมะเร็งในช่องปาก จำนวน 1,600 ราย และคนที่มีสุขภาพดีอีกจำนวน 1,700 คน ในแถบยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา คิวบา และซูดาน ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษาครั้งใหญ่และครั้งสำคัญ ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า มีผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปาก ราวร้อยละ 75-90 เป็นผู้ที่เคยดื่มสุราจัดและสูบบุหรี่มาก่อน ดังนั้น ทั้งสุราและบุหรี่จึงจัดว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้
