หลาย ๆ คนก็คงมีเป้าหมายว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้งในชีวิต ยิ่งถ้าได้ไปกับเพื่อน ๆ ตั้งแต่ตอนยังเรียนอยู่ ก็น่าจะเป็นความทรงจำที่ดีสุด ๆ ไปเลย งั้นมาเริ่มลงมือทำความฝันให้เป็นจริงด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. กำหนดจุดหมายปลายทาง
ตั้งคำถามกับตัวเองหรือปรึกษาเพื่อนร่วมทริปว่า อยากไปเที่ยวที่ไหน เมื่อไหร่ กี่วัน เพื่อให้ได้จุดหมายปลายทางที่ถูกใจ และเหมาะสมกับงบประมาณที่แต่ละคนพอจะเก็บเงินได้ จะได้เป็นเป้าหมายที่ไม่เกินตัวมากไป
2. คำนวณค่าใช้จ่ายในทริป
ด้วยเครื่องมือช่วยวางแผนต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินหรือที่พัก แถมยังมีตัวอย่างแผนท่องเที่ยวที่บอกค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดจาก Facebook Fan Page ต่าง ๆ ดังนั้น ถ้าศึกษาและวางแผนได้ดี ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่ต้องเตรียมงบประมาณไว้มีดังนี้
3. วางแผนเก็บเงิน
หากใครที่มีเงินออมมาบ้างแล้ว ก็เอามาหักลบกับงบค่าทริปที่ตั้งไว้ แล้วคำนวณว่า เวลาที่มีอยู่ก่อนถึงวันไปเที่ยว เราจะต้องออมเงินเพิ่มอีกเดือนละเท่าไร (ตัวอย่างในตาราง) หากคำนวณแล้วเราสามารถออมเงินเพิ่มได้ตามนั้น ก็ลงมือออมตามแผนได้เลย แต่ถ้าจำนวนเงินมากเกินไปจนไม่น่าจะออมได้แน่ ๆ ก็มีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาดังนี้
• ลดค่าใช้จ่าย เริ่มจากลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินออมเพิ่มได้ จากนั้นลองทบทวนว่าในทริปที่วางแผนไว้ มีค่าใช้จ่ายอะไรที่ปรับลดได้อีก เช่น อาจเลือกที่พักที่มีราคาสูงเกินไป หรือตั้งเงินค่าใช้จ่ายจิปาถะมากเกินไป
• ขยายระยะเวลาออมเงินให้นานขึ้น เพื่อให้จำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือนลดน้อยลง แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ด้วย เช่น ถ้าอยากไปเที่ยวช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตก ก็อาจจะขยายเวลาออมเงินไม่ได้ เพราะจะพลาดช่วงเวลาที่ต้องการไปเที่ยว
• หารายได้เสริม เช่น การขายเสื้อผ้าหรือของใช้มือสองผ่านช่องทางออนไลน์ การรับจ้างทำงาน Part -Time การรับสอนพิเศษ การรับงานเป็นผู้ช่วยในงานอบรมสัมมนา หรือการรับงานฟรีแลนซ์ในสายงานที่เราเรียนมา ไม่เพียงแต่เราจะได้รายได้พิเศษเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่ยังได้ใช้ความรู้ความสามารถ ได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ และอาจต่อยอดสู่อาชีพในอนาคตได้ด้วย
แม้ว่าจะวางแผนออมเงินมาแล้วอย่างดี แต่พอถึงเวลาลงมือทำจริง ๆ ก็มักจะมีสิ่งล่อตาล่อใจให้ว่อกแว่กไปใช้เงินที่อุตส่าห์เก็บออมไว้ไประหว่างทาง ดังนั้น ขอแนะนำเทคนิคดี ๆ ด้วยการเปลี่ยนจากการออมเงินในบัญชีออมทรัพย์ที่จะฝากจะถอนเมื่อไหร่ก็ได้ มาเป็นการออมเงินในทางเลือกอื่น ๆ ดังนี้
• ออมในบัญชีเงินฝากประจำ ควรเลือกระยะเวลาให้สอดคล้องกับแผนการออมของเรา เช่น หากเราจะไปเที่ยวในอีก 10 เดือนข้างหน้า ก็ควรเลือกเป็นบัญชีเงินฝากประจำ 6 เดือนหรือต่ำกว่านั้น เพื่อให้เหลือระยะเวลาที่จะต้องนำเงินออกมาจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก
• ลงทุนผ่านกองทุนรวม ควรศึกษานโยบายลงทุนและเงื่อนไขของกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ จากหนังสือชี้ชวน ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อตามความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ เพื่อสร้างโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก ซึ่งหากเราวางแผนท่องเที่ยวไว้ในช่วงระยะเวลาอีกไม่นาน ก็ไม่ควรเลือกซื้อกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงมากนัก เพราะเราต้องการออมเงินและรักษาเงินต้นไว้มากกว่าการคาดหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูง ดังนั้น จึงควรเลือกกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนรวมตลาดเงิน เป็นต้น จากนั้นเมื่อเราลงทุนในกองทุนรวมได้ครบตามกำหนดที่เราวางแผนไว้ ก็ค่อยขายกองทุนนำเงินออกมาใช้ในทริปที่ตั้งใจไว้ ดีไม่ดีก็จะได้เงินกำไรเพิ่มจากการลงทุนมาเป็น Pocket Money ให้ไปเที่ยวอย่างสบายใจไร้กังวลขึ้นอีกด้วย
นอกจากการออมเงินให้ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการแล้ว อย่าลืม!!! คำนึงถึงระยะเวลาของการใช้เงินด้วย เพราะค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้จ่ายทีเดียวทั้งก้อน เช่น การจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกอาจต้องจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นเวลานาน หรือในบางประเทศอาจต้องมีค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่าเพิ่มเติมด้วย
การวางแผนออมเงินไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้เราไม่รู้สึกเร่งรัดมากเกินไป และทริปในฝันก็จะเป็นจริงได้ไม่ยาก หากเราตั้งใจทำได้ตามแผน ก็จะได้ไปเที่ยวแบบสบายใจและมีความสุขสุด ๆ แน่นอน
ขอบคุณ เครดิต
https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/knowledge/article/9-how-to-save-for-the-first-overseas-trip-as-a-university-student