คาเฟ่ชื่อดังย่าน Darlinghurst ตกเป็นข่าวหลังถูกสั่งปรับแสนเหรียญเมื่อพบว่ามีการเอาเปรียบพนักงานที่ร้านให้สปอนเซอร์วีซ่าจากสัญญาการจ้างงานของพนักงานหญิงคนนี้กล่าวว่าทางบริษัทจ้างงาน 40 ต่อสัปดาห์ด้วยเงินเดือน $56,000 ต่อปี แต่ในความจริงแล้วเธอทำงาน 54 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และยังถูกสั่งให้จ่ายเงิน $13,952 คืนจากค่าแรงของเธอเพื่อชดเชยรายได้ตั้งแต่เดือนสิงหา 2014 ถึงพฤษจิกายน 2015 เมื่อเธอขอยื่นลาออก แต่เนื่องจากเธอไม่สามารถจ่ายเป็นก้อนได้จึงขอให้หักจากรายได้ตามที่ควรได้เป็นจำนวน $218 โดยกล่าวว่าจะนำเงินนี้ไปจ่ายค่าภาษีและเงินซูปเปอร์เนื่องจากทางร้านจ่ายไม่ไหวเป็นเวลา 15 เดือน
หลังลาออกเธอจึงได้ทำเรื่องไปยัง Fair Work Ombudsman เพื่อขอให้ตรวจสอบและพบว่าเธอไม่เคยได้ใบรับเงินเดือน ไม่ได้รับสิทธิ์ในการลางานประจำปีตามที่ควรจะได้รับ ไม่ได้รับค่าแรงนอกเวลา วันสุดสัปดาห์และวันนักขัตตฤกษ์ตามที่ควรได้ โดยรวมแล้วเธอขาดทุนไป $39,686 และเธอได้รับเงินส่วนคืนนี้แล้วหลังบริษัทยอมรับว่าได้มีการละเมิดกฏจริง ถึงแม้ว่านาย Vertes จะไม่ได้แสดงความเสียใจแต่อย่างใดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้พิพากษา Nicholas Manousaridis กล่าวว่า การตั้งเงือนไขเช่นนี้ทำให้พนักงานเข้าใจผิดคิดว่าตนได้รับค่าแรงและสิทธิตามที่ควรได้ เนื่องจากทางบริษัทรู้ว่าพนักงานต้องการได้วีซ่าเพื่อที่จะอยู่ในออสเตรเลียต่อได้และจะยอมทำทุกอย่าง จึงได้โอกาสเอาเปรียบเธอ ศาล Federal Circuit Court สั่งปรับ Tibor Vertes เจ้าของร้าน $9720 และบริษัทของเขา Robit Nominees Pty Ltd ถูกปรับอีก $87,345
Kristen Hannah จาก Fair Work Ombudsman กล่าวว่า Fair Work Amendment (Protecting Vulnerable Workers) Act 2017 ได้มีการเพิ่มบทลงโทษถึงขั้นสูงสุดต่อนายจ้างที่จงใจเอาเปรียบลูกจ้างโดยการจ่ายค่าแรงตำ่กว่าที่ควรเนื่องจากรู้ว่าพนักงานต้องขึ้นอยู่กับวีซ่า และมันฟังไม่ขึ้นเลยที่บริษัทจะโกงพนักงานแบบนี้ทั้งๆที่พวกเขาทีสิทธิที่จะได้ค่าแรงเหมือนกับลูกจ้างขาวออสเตรเลียน เธอขอให้ลูกจ้างให้ระวังหากนายจ้างบังคับให้จ่ายเงินคืน
ที่มา http://www.news.com.au/finance/business/retail/bar-coluzzi-owner-penalised-after-ripping-italian-cook-off-by-40k/news-story/be50f28d83fc5a131a1c56689419da8f