หนึ่งในเจ็ดของคนวัยหนุ่มสาวที่สมอ้างว่ามีความผิดปกติทางร่างกายหรือจิตใจเพื่อรับเงินสวัสดิการสนับสนุนคนพิการหรือ DSP ได้ถูกโอนมารับเงินสวัสดิการว่างงาน เพื่อจะต้องเขาสู่กระบวนการออกหางานทำหรือถูกเอเยนซี่ของรัฐหางานให้ทำ
รัฐบาลกลางได้เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลใช้นโยบายคุมเข้มผู้รับเงินสวัสดิการคนพิการในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี 2015 สามารถลดคนหนุ่มสาวที่รับเงินสวัสดิการ DSP ลงได้กว่า 8,000 คน และยังทำให้ยอดผู้รับเงินสวัสดิการ DSP ในปัจจุบันลดลงเหลือ 806,136 คน เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2014 ที่มีถึง 830,454 คน
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาถึงวันที่ 30 กันยายน 2015 มีผู้ยื่นของเงินสวัสดิการ DSP เป็นจำนวนกว่า 108,000 คน ในจำนวนนี้ถูกปฏิเสธกว่า 70,000 คน โดยมีผู้ได้รับอนุมัติไม่ถึง 38,000 คน
นาย Christian Porter ร.มว.บริการสังคมของรัฐบาลกลางกล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้วยการให้แพทย์ที่ได้รับมอบหมายจากเครือรัฐออสเตรเลียเท่านั้นเป็นผู้ตรวจสุขภาพและลงนามรับรองความเป็นคนพิการ เขากล่าวว่านโยบายของรัฐบาลพรรคผสมลิเบอรัล-เนชั่นแนลสามารถลดงบประมาณเงินสวัสดิการคนพิการมูลค่า 16 พันล้านเหรียญต่อปีที่ผ่านมาลงได้ประมาณ 1.6 พันล้านเหรียญ ในขณะเดียวกันก็เป็นการผลักดันบุคคลเหล่านี้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน ที่จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของชาติ
เขากล่าวว่า การใช้นโยบายใหม่ก็เพื่อให้ระบบเงินสวัสดิการมีความเป็นธรรมและเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ดังเห็นได้จากจำนวนคนรับเงินสวัสดิการ DSP ได้ลดลงถึงกว่า 24,300 คนในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา
เขากล่าวว่า จุดสำคัญที่สุดคือการผลักดันให้คนหนุ่มสาวในวันต่ำกว่า 35 ปีที่มีร่างกายสมบูรณ์แต่แอบแฝงอยู่ในกลุ่มผู้รับเงินสวัสดิการคนพิการกลับเข้าทำงาน ในอดีตที่ผ่านมา คนหนุ่มสาวหลายคนหลีกเลี่ยงการต้องออกไปหางานทำหากรับเงินสวัสดิการว่างงาน ด้วยการขอความช่วยเหลือเหรือหลอกลวงแพทย์ผู้ตรวจร่างกายและปริเมินสภาพจิตให้ลงนามรับรองว่าเป็นคนพิการ ข้ออ้างยอดฮิตก็คือเป็นผู้ได้รับความกดดันทางจิตใจ
อีกประการหนึ่งที่เป็นปัจจัยล่อใจให้พวกเขาอ้างว่าเป็นคนพิการก็เพราะเงินสวัสดิการคนว่างงานรัฐบาลจะจ่ายให้รายละ 523.40 ต่อสองสัปดาห์ แต่เงินสวัสดิการ DSP จะตกรายละ 788.40 เหรียญต่อสองสัปดาห์ ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่มีไม่กี่ประเทศในโลกที่คนพิการสูญเสียแขนขาและดวงตาจะดิ้นรนออกหางานทำ แต่คนที่มีร่างกายปกติจำนวนหนึ่งจะพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อรับเงินสวัสดิการคนพิการ
นาย Khaled Sharrouf เคยเป็นหนึ่งใน 57 คนของผู้หลบหนีออกนอกประเทศไปร่วมรบกับผู้ก่อการร้ายรัฐอิสลาม 55 คนใน 57 คนเป็นผู้กินเงินสวัสดิการของรัฐ และเกือบทั้งหมดกินเงินสวัสดิการคนพิการ จากความช่วยเหลือของแพทย์ ทั้งที่ร่างกายแข็งแรงและจนสามารถทำการรบได้