นาย Peter Dutton ร.มว.อิมฯ (ภาพจาก Skynews)
นาย Peter Dutton ร.มว.การเข้าเมืองได้ยืนยันถึงภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่อง “จริง” หลังจากทางการสกัดผู้ต้องสงสัยว่าจะเดินทางไปยังดินแดนขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ให้ขึ้นเครื่องบินได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นับจากเดือนกรกฎาคม 2015 เป็นต้นมา หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย (CTU) ของออสเตรเลียได้สกัดผู้ต้องสงสัยจำนวน 199 คน ที่อยู่ในข่ายเป็นบุคคลคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ที่รวมถึงเยาวชน 5 คนที่ถูกสั่งห้ามเดินทางในเดือนสิงหาคมและชายหนุ่มอีกหนึ่งคนผู้มีแผนจะลักลอบเดินทางต่อไปยังประเทศซีเรีย
นาย Dutton ซึ่งเพิ่งกลับจากการประชุมในกรุงจากาต้ามาแวะที่นครบริสเบนกล่าวว่า ยอดผู้ต้องสงสัยจะไปร่วมกับกองกำลังรัฐอิสลามและกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ได้ถูกสกัดได้เป็นจำนวน 535 คนนับจากเดือนสิงหาคมปี 2014 ตัวเลขที่เกิดขึ้นได้สะท้อนให้เห็นถึงภัยคุกคามการก่อการร้ายในหลายประเทศทั่วโลกได้เพิ่มขึ้น ดังที่ได้เห็นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมาและที่อื่น ๆ
การสกัดไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศเกิดขึ้นสูงสุดที่สนามบินนานาชาติซิดนีย์ ตามด้วยที่สนามบินเมลเบิร์นและสนามบินบริสเบน ในขณะที่องค์กรความมั่นคงและข่าวกรองแห่งออสเตรเลีย (ASIO) รายงานว่าขณะนี้ได้ทำการสอบสวนกรณีของการก่อการร้ายในระดับสำคัญจำนวนทั้งสิ้นกว่า 400 คดี
นาย Dutton กล่าวว่า การคุกคามที่เกิดขึ้นจะก่อปัญหาขึ้นภายในประเทศ อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศแคนาดาในเดือนตุลาคมปี 2014 เมื่อมีเหตุทหารแคนาดาคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตที่รัฐสภากลางในกรุงออตตาวา โดยชายคนหนึ่งซึ่งกำลังรอการอนุมัติหนังสือเดินทางเพื่อไปยังตะวันออกกลาง
ชายผู้นี้ได้ถูกหยุดยั้งไม่ให้เดินทาง หลังจากเขาถูกต้องสงสัยว่าจะเดินทางไปร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง เมื่อไม่ได้ไปเขาก็กระทำการก่อการร้ายภายในประเทศ รัฐมตรีการเข้าเมืองกล่าวว่ารัฐบาลต้องทำการหยุดยังคนออสเตรเลียไม่ให้ไปก่อปัญหาในต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็จะทำทุกวิถีทางที่จะให้ประชาชนในประเทศดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัย
นาย Dutton ยังได้ช่วงเวลาดังกล่าวเรียกร้องให้ดร. Ibrahim Abu Mohammed ผู้นำศาสนาอิลามสูงสุดแห่งออสเตรเลีย (Grand Mufti of Australia) ออกมาร่วมประณามการก่อการร้ายในกรุงปารีส ซึ่งสองวันก่อนหน้านี้ผู้นำศาสนาอิสลามสูงสุดได้ปฏิเสธที่จะออกมากล่าวโจมตีกลุ่มรัฐอิสลามผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายในกรุงปารีส แต่ได้กล่าวโทษการรังเกียจเชื้อชาติและความหวาดกลัวอิสลาม (Islamophobia) คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสังหารในกรุงปารีส
ที่มา : jingjonews