ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเกือบร้อยละ 3 เนื่องจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯและการส่งออกของโอเปคส่งผลให้เกิดความคลางแคลงในปีพ.ศ. 2560 ในเรื่องความพยายามของผู้ผลิตเพื่อลดอุปทานส่วนเกินทั่วโลก
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งแตะ US $ 1.40 หรือ 2.9% ปิดที่ 46.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากร่วงลงมาที่ US $ 46.28 ซึ่งต่ำสุดในรอบสัปดาห์
ราคาน้ำมันดิบตลาดกลางสหรัฐพุ่งขึ้นแตะ US $ 1.29 หรือ 2.8% ลดลงมาอยู่ที่ 44.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากซื้อขายที่ระดับต่ำสุดที่ US $ 43.78
ดัชนีทั้งสองมีการปรับลดลงทุกสัปดาห์ในเจ็ดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดย WTI ลดลง 3.9% ในช่วงสัปดาห์และเบรนต์ลดลง 2.5%
แมตต์ สมิธ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์จาก Clipperdata กล่าวว่า" กระแสการจัดหาสินค้าอย่างไม่หยุดยั้งยังคงดำเนินต่อไป เขากล่าวว่าปริมาณการส่งออกโอเปคอยู่ที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันสูงกว่าเดือนมิถุนายนในเดือนมิถุนายนแม้จะมีการขยายตัว 1.8 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบนำโดย องค์การเพื่อการส่งออกปิโตรเลียม
"เราเห็นการส่งออกเมื่อเดือนที่แล้วจากโอเปคมากขึ้นกว่าที่เคยในเดือนเมษายนและพฤษภาคมซึ่งดูเหมือนจะไม่มีผลกับข้อตกลงในการผลิตของโอเปค" นายสมิธ กล่าว
ข้อมูลน้ำมันของ Reuters แสดงให้เห็นว่าการผลิตโอเปคอยู่ในระดับสูงสุดในปีนี้
รัสเซียซึ่งกำลังร่วมมือกับโอเปคในข้อตกลงการผลิต และพร้อมที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์ของข้อตกลงถ้าจำเป็น
กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ตรวจสอบข้อตกลงจะพบกันในวันที่ 24 กรกฎาคมในรัสเซียแฃะพวกเขาสามารถแนะนำให้ปรับข้อตกลงนี้ได้ในวันนั้น
จากข้อมูลของ บริษัท Baker Hughes ซึ่งให้บริการด้านพลังงานแก่ Baker Hughes ทำให้ยอดการผลิตรวมกันสูงขึ้นถึง 763 มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2015
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาข้อมูลรัฐบาลสหรัฐชี้ให้เห็นว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1% มาอยู่ที่ 9.34 ล้านบาร์เรลต่อสัปดาห์หลังจากที่ร่วงลงในสัปดาห์ก่อนหน้าเนื่องจากงานบำรุงรักษาและการหยุดชะงักเนื่องจากพายุ
Rob Haworth นักยุทธศาสตร์การลงทุนอาวุโสของ US Bank Wealth Management กล่าวว่า "มันต้องใช้ราคาที่ต่ำลงบ้างเพื่อชะลอการผลิตของสหรัฐฯ
ท่ามกลางการผลิตที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯตลาดส่วนใหญ่ไม่สนใจปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดลง 6.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนเหลือเพียง 502.9 ล้านบาร์เรลซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม
ธนาคารสหรัฐ Morgan Stanley กล่าวว่าคาดการณ์ว่าราคา WTI จะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ US $ 50 จนถึงกลางปี 2018 และกล่าวเพิ่มเติมว่า "ถ้าผลผลิตลดลงจาก OPEC ไม่เพียงพอการผลิตหินของสหรัฐจะต้องชะลอตัวลงเพื่อโอกาสในการสร้างตลาดที่สมดุลในปี 2561 "
ผู้จัดการฝ่ายการเงินได้ระดมตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบระยะยาวสุทธิของสหรัฐและตลาดในวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมาโดยคณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากกองทุนป้องกันความเสี่ยงและผู้จัดการกองทุนอื่น ๆ ลดการใช้จ่ายน้ำมันดิบในสหรัฐลงเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในสัปดาห์ก่อนหน้า
ที่มา http://www.dailytelegraph.com.au/business/breaking-news/oil-drops-3-on-rising-global-supplies/news-story/6be8a82a4990431391876a5c72ed75ba
