ลูกค้าในร้านอาหารมีหลายประเภทหลายๆคนมีความช่างเลือกในการกินอาหาร หลายๆคนอ้างเป็นนักโภชนาการ และมีอีกกลุ่มที่อ้างว่าเป็นกูรูเรื่องอาหาร ซึ่งคนในบางกลุ่มนี้อ้างว่าตนแพ้อาหารหลายประเภทมากและอาจมีอันตรายถึงชีวิตและได้ขอให้ร้านอาหารชื่อดังๆหลายร้านเตรียมอาหารแบบพิเศษให้
การกระทำนี้ทำให้บรรดาเชฟปวดหัวไปตามๆกัน และคนบางกลุ่มที่ไม่ได้แพ้อาหารจริงๆ อาจจะเป็นต้นเหตุให้คนที่แพ้อาหารจริงต้องได้รับความเดือดร้อนไปด้วยเพราะกลัวว่าจะทางร้านอาหารจะใส่ใจในเรื่องนี้น้อยลง
เชฟมักจะถูกลูกค้าบอกเสมอๆว่า พวกเขามีอาการแพ้อาหารที่อาจมีอันตรายถึงชีวิต เช่น ปฏิกิริยาภูมิแพ้แบบเฉียบพลัน หรือโรคภูมิแพ้กลูเตน ทั้งๆที่คนกลุ่มนี้แค่อยู่ในช่วงควบคุมอาหาร นี่เป็นคำกล่าวว่าของ Patrick Friesen หัวหน้าเชฟผุู้ชนะรางวัล Asian eatery Queen Chow
โดย Patrick ได้ระเบิดความรู้สึกออกมาใน Instagram ส่วนตัวว่า การทำงานในครัวมีความลำบากมากทุกๆคืน เนื่องจากคำขอที่มากมายเหลือเกิน พร้อมทั้งโพสรูปภาพให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยสิ่งที่ลูกค้าขอมาเช่น แพ้ Shell fish แพ้กลูเตน หรือสั่งเมนูที่มีเนื้อสัตว์แต่ไม่เอาเนื้อสัตว์
ในโพสกล่าวว่า “ขอละครับ คุณๆทั้งหลายที่แพ้อาหารหรือมีข้อจำกัดในการทานอาหาร ขอให้ไปตรวจหรือหาข้อมูลมาให้แน่ใจว่าคุณกินหรือกินอะไรไม่ได้ บางคนบอกแพ้ shell fish แต่ชอบน้ำมันหอย คนแพ้กลูเตนแต่ชอบกลูเตนที่ไม่ใช่ขนมปัง หรือคนกินมังสวิรัตแต่ชอบปีกไก่และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Pescetarians แต่กินไก่"
“พวกคุณควรไปจัดการตัวเองให้ดีก่อนแล้วค่อยมาบอกพนักงานเสริฟ เพราะพวกคุณกำลังสร้างปัญหาการกินข้าวนอกบ้านให้คนที่เขาแพ้จริงๆ”
Friesen ได้โพสอีกหนึ่งข้อความกล่าวถึงความหัวเสีย เพราะคุณแม่ของเชฟนั้นเป็นผู้ป่วย Coeliac disease และไม่สามารถทานอาหารกลุ่ม wheat rye barley และ oats
ทั้งๆที่ทั่วไปแล้วร้านอาหารชื่อดังส่วนใหญ่ในหัวเมืองสำคัญๆ มีอาหารกลุ่มที่ไม่มีส่วนประกอบของกลูเตน และอาหารสำหรับคนที่มีภูมิแพ้ทั่วๆไป แต่ในคนทำงานในครัวต้องปวดหัวเพราะเต็มไปด้วยคำขอมากมาย
“บางทีเราก็เจอคนที่มาเดทครั้งแรกและสั่งว่าแพ้หอมหัวใหญ่ ทั้งที่จริงๆแค่ไม่อยากกินหอมหัวใหญ่”
“เราจึงบอกไปว่า เราเป็นร้านอาหารเอเชียและหอมหัวใหญ่เป็นส่วนประกอบสำคัญในแทบจะทุกจาน ลูกค้าก็ตอบกลับมาว่า งั้นไม่เป็นไรฉันกินได้หมดแหละ คือสรุปแล้วคุณก็ไม่ได้แพ้หอมหัวใหญ่สินะ”
“และสำหรับคนที่ทำงานในครัวมันเหมือนการทรมานกัน โดยเฉพาะเวลาที่เรามีลูกค้าที่แพ้จริงๆและต้องระมัดระวังมาก”
Maria Said จาก Allergy & Anaphylaxis Australia กล่าวว่า การขอให้เชฟทำอาหารแบบเฉพาะคนเพิ่มขึ้นอย่างมากจนทำให้คนทำงานในครัวใส่ใจในการระมัดระวังกับผู้ที่มีอาการแพ้จริงๆo้อยลงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของผู้ริโภค
“มันเป็นเรื่องยากมากที่จะรได้คำตอบที่แท้จริงว่าลูกค้าแพ้อาหารหรือไม่ เชฟไม่สามารถเดินไล่ถามเพื่อเค้นความจริงจากทีละคน เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
“อยากให้หลายๆคนเข้าใจว่า การที่คุณเกลียดดอกกะหล่ำ ไม่ได้แปลว่าคุณแพ้ดอกกะหล่ำ แต่การสื่อสารแบบนี้ออกไปมีเยอะมากและก่อให้เกิดปัญหาตามมา”
Francesco Mannelli หัวหน้าแผนก Mode Kitchen and Bar จากโรงแรม Four Seasons กล่าวว่า ในรอบสิบปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ของการแพ้อาหารเพิ่มขึ้นมาก และเขาได้ทำเมนูที่ 98% เป็นอาหารที่ไม่มีกลูเตนเลย
ที่มา http://www.dailytelegraph.com.au/lifestyle/food/allergic-diners-driving-chefs-crazy-with-picky-demands/news-story/538d964df35faaa8ce80c69880022c69