ซากทารกและชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ ยังคงกลายเป็นวัตถุทางความเชื่อของกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่ง และมีการเปิดซื้อ-ขายกันเฉพาะในกลุ่ม ไม่เฉพาะคนไทยที่เป็นลูกค้า แต่ชาวต่างชาติจำนวนมากในหลายประเทศก็มีความนิยมตามความเชื่อ
ซากทารกและชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ ยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่ง ที่มีความเชื่อทางไสยศาสตร์นำไปใช้ ทำพิธีปลุกเสก และจัดจำหน่าย ไม่เฉพาะคนไทยที่เป็นลูกค้า ชาวต่างชาติ หลายประเทศก็มีความนิยม โดยเฉพาะซากทารกที่ทำเป็นกุมารทอง โดยมีความเชื่อว่าเป็นวัตถุมงคลด้านเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย
ชิ้นส่วนแผ่นหนังมนุษย์ที่คาดว่าผ่านการทำพิธี ลงอักขระลงยันต์ ที่ตรวจพบก่อนส่งไปประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านบริษัทดีเอชแอล เป็นเพียงหนึ่งใน 5 ชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ ซึ่งในนั้นยังมีชิ้นส่วนทารกด้วย จากการตรวจสอบผู้ส่งและผู้รับเป็นชาวต่างชาติ เมื่อเรียกมาสอบปากคำ ชายต่างชาติรับว่าซื้อชิ้นส่วนมนุษย์ทั้งหมดมาจากตลาดแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี แต่ยังไม่พบความผิดอื่นตำรวจจึงปล่อยตัวไป
ขณะนี้ชิ้นส่วนอวัยวะทั้งหมดถูกส่งให้ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อดำเนินการตรวจสอบ ซึ่ง ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร ผอ.ศูนย์ชันสูตรพลิกศพ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาเปิดเผยผลการตรวจแล้วว่า เป็นชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์จริง แต่ผ่านการบรรจุหีบห่อและดองน้ำยาฟอมาลีนอย่างดี
การพบชิ้นส่วนมนุษย์ที่ผ่านการทำพิธีทางไสยศาสตร์ลักษณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวการพบชิ้นส่วนทารก และข่าวความพยายามขโมยซากทารกที่เก็บไว้จากโรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ที่เป็นข่าวใหญ่และได้รับความสนใจ คือกรณีชายชาวไต้หวัน ถูกตำรวจจับพร้อม ของกลางซากทารกปลุกเสก 6 ซาก ที่ผ่านพิธีกรรมการทำกุมารทอง ภายในโรงแรมย่านเยาวราช เมื่อปี 2555
ผู้ต้องหาคือนายโจว ฮอง ฮุน รับสารภาพว่า เป็นพ่อค้าคนกลางที่เข้ามารับ ซากศพทารก ที่เขาเรียกว่ากุมารทอง เพื่อไปขายต่อ ตำรวจตรวจสอบการเดินทางเข้าออกประเทศไทยของนายโจว ฮอง ฮุนบ่อยถึง 12 ครั้ง การสอบสวนนายโจว ฮอง ฮุน บอกว่าจะนำซากทารกหรือกุมารทองไป จำหน่ายที่ประเทศไต้หวัน เพราะมีกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่า ซากทารกหรือกุมารทองเหล่านี้จะสามารถเสริมดวง ความร่ำรวย โดยลูกค้าจะมีทั้งพ่อค้าแม่ค้าดารา ไปจนถึงนักการเมือง
ที่มา news.sanook.com