จากโศกอนาตกรรมที่เกิดขึ้น(ย่านมาร์ตินเพลส) ทำให้ชาวออสเตรเลียต้องการคำตอบกับคำถามที่ว่า
"ทำไมตำรวจ สำนักงานความมั่นคง และหน่วยงานข่าวกรองของออสเตรเลีย อนุญาตให้บุคคลที่ประกาศตัวเองอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนรัฐอิสลาม เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศ และสุดท้ายก็จับผู้บริสุทธิ์เป็นตัวประกัน?"
มาร์ตินเพลส กลายเป็นสถานที่แห่งความโศกเศร้า ต่อการจากไปของคนบริสุทธิ์ 2 คน
ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้
และแน่นอนว่า ชาวเมืองซิดนีย์จะจดจำเหตุการณ์ความผิดพลาดครั้งนี้ตลอดไป
ต่อคำถามที่ว่า "มีวีธีการใด ที่จะตรวจสอบประวัติ เฝ้าติดตามบุคคลต้องสงสัย หรือ อนุญาติให้อยู่ในประเทศได้หรือไม่" นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้แต่อย่างใด
ผู้ว่าการรัฐ New South Wales ให้ความเห็นว่า "เราทุกคนก็ไม่พอใจเช่นกันที่มีคนร้ายมาอาศัยอยู่ในประเทศ”
ในเวลาเดียวกันหน่วยงานด้านข่าวกรองก็ให้ความเห็นว่า "คงจะต้องมีการตรวจสอบกฏหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันตัวของบุคคลคนที่ถูกจับ และผู้ต้องสงสัยให้รัดกุมมากกว่านี้
แต่นั่นมันก็สายเกินไปสำหรับครอบครัวของแคทรีนา ดอว์สัน และ จอห์นสัน ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว"
จากคนที่ไม่มีใครสนใจ วันนี้ "Man Haron Monis" ได้กลายเป็นบุคคลที่ Australian Security Intelligence Organisation ต้องรู้จักทันที. ซึ่งก่อนหน้านี้ ในช่วงยุคปลาย 2000s หน่วยงานเกี่ยวกับการสืบราชการลับรู้ว่าเขาเป็นคนหัวรุนแรง และ มีประวัติอาชญากรรมยาวเหยียดอยู่ในหลายประเทศ
และเหตุการณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ ASIO ให้ความสนใจคือ การที่นายโมนิส ส่งจดหมายแสดงความไม่พอใจไปยังครอบครัวทหารผ่านศึกในปี 2010 ซึ่งทำให้นายโมนิส ถูกทางการเฝ้าจับตาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเฝ้าระวังนั้นก็ลดลง
นายโมนิสมาถึงประเทศออสเตรเลียปี 1996 ในฐานะผู้ลี้ภัยชาวอิหร่าน และนั่นก็เป็นสัญญานที่ชัดเจนเกี่ยวกับอดีตที่น่ากลัวของเขาก่อนที่เขาเดินทาง ตามที่ Fars News International ซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาลอิหร่าน แจ้งว่าเขาได้ขโมยเงินจำนวน $200,000 USD จากลูกค้าคนหนึ่งซึ่งเข้ามาใช้บริการในสำนักงานการท่องเทียวท่องถิ่น ที่เขาทำงานอยู่ในขณะนั้น และใช้เป็นเงินหลบหนีมายังประเทศออสเตรเลีย
ทั้งนี้สำนักข่าว News Corp Australia รายงานว่า รัฐบาลอิหร่านเคยเตือนออสเตรเลียเกียวกับอันตรายจากนายโมนิสแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ทุกคนกลับเพิกเฉยต่อคำเตือนนั้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของหน่วยงานความมั่นคงของออสเตรเลีย ที่ไม่ให้ความสำคัญต่อประวัติ และ ความเสี่ยงของคนที่ขอลี้ภัยเข้ามาในประเทศทั้ง ๆ ที่รู้รายละเอียดเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม กฏหมายการให้ประกันตัวฉบับแก้ไขใหม่ จะมีกำหนดบังคับใช้ใน NSW ต้นปีหน้า (2015)
เหตุการณ์สำคัญในครั้งนี้ น่าจะทำให้หลาย ๆ ประเทศทั่วโลก หันมาสนใจข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศมากขึ้น และ อาจจะนำมาซึ่งร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรรมระหว่างประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็เป็นได้
Natui Webmaster บทความ / สิงห์ชมพู เรียบเรียง