สำนักงานภาษีออสเตรเลียหรือ ATO ได้ออกมาเตือนว่า ผู้ที่ไม่ยื่นแบบขอคืนภาษี (tax return form) โปรดอย่าได้คิดว่าจะถูกลงโทษสถานเบา แต่จะมีโทษถึงอาญา
ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีให้ความเห็นว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้สำนักงานภาษีออสเตรเลียมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการติดตามและควานหาตัวผู้ที่ไม่ยื่นภาษี และพวกเขาจะเผชิญกับโทษเป็นผู้กระทำผิดถูกบันทึกประวัติอาชญากรรม, ทำงานชดใช้สังคม, ถูกปฏิเสธการกู้ยืมเงินและการให้เครดิต และปฏิเสธเงินสวัสดิการสังคม
เป็นที่เชื่อว่ามีชาวออสเตรเลียประมาณ 10% ไม่ยื่น “แบบขอคืนภาษี” (เทียบได้กับ “แบบแสดงรายการภาษีเงินได้” บุคคลธรรมดา และนิติบุคคลของไทย) ในขณะที่สำนักงานภาษีอ้างว่าอีกเกือบ 20% ไม่ได้ยื่นภาษีภายในเวลาที่กำหนด นาย Graham Whyte ผู้ช่วยผู้ว่าการสำนักงานภาษีกล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลายื่นแบบขอคืนภาษีอีกประมาณ 1 เดือน จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้ยื่นแบบ รีบดำเนินการยื่นต่อสำนักงานภาษี หาไม่แล้วเจ้าหน้าที่สำนักงานภาษีจะเป็นฝ่ายไปหาท่าน
นาง Adrian Raftery อาจารย์วิชาภาษีแห่งมหาวิทยาลัยเดียคินในนครเมลเบิร์นกล่าวว่า สำนักงานภาษีใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการเปรียบเทียบข้อมูลทำการตรวจสอบภาษีเงินได้หักณที่จ่าย (group certificates), บัญชีเงินฝากธนาคาร, เงินปันผล, บันทึกการขายอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์อื่น ๆ เป็นต้น
เธอกล่าวว่า ผู้มีรายได้ส่วนใหญ่จะได้รับเงินคืนภาษี ซึ่งเงินคืนภาษีถูกสำรองเตรียมรอจ่ายคืนผู้เสียภาษีโดยไม่มีดอกเบี้ยใด ๆ การยื่นแบบช้าก็เท่ากับผู้เสียภาษีเป็นผู้เสียผลประโยชน์ แต่ถ้าไม่ยืนภาษี สำนักงานภาษีสามารถเรียกชำระหนี้คืนได้ เพราะสำนักงานมีข้อมูลเงินฝาก, ข้อมูลทางการเงินอื่น ๆ พร้อมตามไปถึงเงินสวัสดิการที่ได้รับจาก Centrelink และถ้าเป็นบริษัทห้างร้านก็ยังตามไปถึงตัวกรรมการบริษัททุกคน
สำหรับวันสุดท้ายของการยื่นแบบขอคืนภาษีบุคคลธรรมดาประจำปีการเงิน 2014-15 คือวันที่ 31 ตุลาคม 2015 นี้
คดีที่ 1
ชายวัย 53 ปีที่ีมีบุตรสนับสนุนทางการเงิน ไม่ได้ยืนแบบคืนภาษีเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน เขาถูกศาลตัดสินมีความผิดด้วยโทษปรับ 7,500 เหรียญ และสั่งให้ยื่นแบบคืนภาษีย้อนหลัง แต่เขาไม่ทำตามคำสั่งศาล จึงถูกนำขึ้นศาลอีกครั้ง ในเดือนมีนาคมปีนี้ศาลตัดสินเป็นความผิดทางอาญา สั่งให้ยื่นแบบคืนภาษีย้อนหลัง และสั่งปรับเพิ่มอีก 25,000 เหรียญ
คดีที่ 2
พนักงานร้านเบเกอรี่ได้หลีกเลี่ยงข้อมูลการติดต่อใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเสียภาษีมาเป็นเวลา 33 ปี เขาไม่เคยยื่นแบบคืนภาษีและไม่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ผลขอการไม่ยืนแบบขอคืนภาษีทำให้เขาถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังในอัตราสูงสุดเกือบ 50% จากรายได้พึงประเมินย้อนหลังกว่า 30 ปี
คดีที่ 3
ช่างปูนพลาสเตอร์วัย 42 ปี ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ไม่ได้ยื่นแบบขอคืนภาษีเป็นเวลา 12 ปีและไม่ได้ยื่นแบบคืนภาษีสินค้าและบริการ (GST) จำนวน 115 เดือน เขายอมรับสารภาพผิด และได้ยอมยื่นแบบคืนภาษีย้อนหลังทั้งหมด เขาถูกศาลตัดสินมีความผิดทางอาญา และถูกปรับ 8,000 เหรียญสำหรับการไม่ยื่นแบบขอคืนภาษีบุคคลธรรมดา และถูกปรับ 70,000 เหรียญสำหรับการไม่ยื่นแบบคืนภาษี GST
ที่มา : jingjonews