เมื่อวันที่ 23 มีนาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากประเทศสิงคโปร์ว่านายกรัฐมนตรีนายลี เซียง ลุง ผู้นำสิงคโปร์
แถลงสดผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติทั้งในภาษามาเลย์และภาษาจีนกลางประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของนาย ลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ อย่างเป็นทางการ ได้เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา03.18น.เช้าวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น หรือ เวลา 02.18 น.ตามเวลาประเทศไทย รวมอายุได้ 91 ปี หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิงคโปร์เจเนอรัล (เอสจีเอช) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ด้วยอาการปอดอักเสบรุนแรง จนแพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
นาย ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน เป็นบุตรชายนายลี กวนยู แถลงต่อชาวสิงคโปร์ทั่วประเทศการถึงแก่อสัญกรรมของนาย ลี กวนยู ผู้ได้รับยกย่อง เป็นบิดาผู้ก่อตั้งประเทศ ว่าการจากไปของนายลี กวน ยู สร้างความโศกเศร้าแก่เขาจนมิอาจหาถ้อยคำใดมาบรรยายได้และทราบดีว่าประชาชนทั้งประเทศมีความรู้สึกเช่นกัน บิดาอุทิศตลอดทั้งชีวิตสร้างสิงคโปร์จากเกาะขนาดเล็กปราศจากทรัพยากรสำคัญจนกลายเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทัดเทียมมหาอำนาจ ขอให้ชาวสิงคโปร์ร่วมเคารพดวงวิญญาณของ นายลี กวนยู เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันสานต่อภารกิจของประเทศชาติบนรากฐานที่นายลี กวนยู วางไว้เพื่อความเจริญรุ่งเรืองประเทศต่อไป
ข่าวการถึงแก่อสัญกรรม ได้สร้างความเศร้าโศกแก่ชาวสิงคโปร์ทั้งประเทศ ทางรัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศไว้อาลัย 1 สัปดาห์ วันที่ 23-29 มีนาคมและ ประกาศลดธงชาติลงครึ่งเสา ตั้งแต่วันที่ 23-29 มีนาคม ก่อนจะจัดพิธีศพอย่างเป็นทางการ
โดยครอบครัวของ นายลี กวนยู จะจัดพิธีศพในส่วนของครอบครัว ที่อาคารSri Temasekหรือสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 23-24 มีนาคม ก่อนจะนำร่างไปตั้งไว้ที่อาคารรัฐสภา ระหว่างวันที่ 25-28 มีนาคมเพื่อให้ประชาชนเดินทางไปเคารพศพ โดยจะเปิดให้ประชาชนเดินทางไปเคารพศพระหว่างเวลา10.00-20.00น.จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม เวลา14.00 น.จะจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติอย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
บรรดาผู้นำโลกต่างออกมาแสดงความเสียใจต่อข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของ นายลี กวนยู โดยที่ สหประชาชาติ(ยูเอ็น)เผยแพร่แถลงการณ์ของ เลขาธิการใหญ่คือนายบัน คี มูนแสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งแก่การจากไปของ นายลี กวน ยูซึ่งเป็น “บิดาแห่งประเทศสิงคโปร์”อย่างแท้จริง
ขณะที่ ทำเนียบขาวได้เผยแพร่ แถลงการณ์ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ร่วมแสดงความไว้อาลัยพร้อมกล่าวสดุดี ยกย่อง นายลี กวน ยู เป็นหนึ่งในบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการวางแผนยุทธศาสตร์ให้แก่สิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้าน อดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุชแถลงยกย่องนายลีว่าเป็นบิดาแห่งสิงคโปร์ผู้เปลี่ยนโฉมประเทศและนำพาอาเซียนเข้าสู่ยุคแห่งความทันสมัย ได้สร้างประเทศที่เป็นกำลังสำคัญต่อเสถียรภาพ ความรุ่งเรือง และเป็นมิตรของสหรัฐ ขณะที่ อดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ผู้พ่อแถลงว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นเพื่อนกับนายลี
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงการณ์ชื่นชมนายลีกวนยูว่าเป็นนักกลยุทธ์ที่ผสมผสานค่านิยมตะวันออก แนวคิดสากลเข้าด้วยกัน เป็นทั้งผู้สร้างสรรค์ วางรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างสิงคโปร์ รัฐบาลจีน ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งไปยังรัฐบาล ครอบครัวและประชาชนชาวสิงคโปร์
ขณะที่ นพ.ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ถึงแก่อสัญกรรมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.)กล่าวในนามของรัฐบาล และประชาชนชาวไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไป ยังนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และครอบครัว ตลอดจนประชาชนชาวสิงคโปร์ พร้อมขอเยือนสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม ออกไปก่อน
สำหรับประวัติ นายลี กวน ยู เกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2466 ที่สิงคโปร์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกิจประชาชน (พีเอพี ) และนำพรรคชนะการเลือกตั้งติดต่อกัน8 ครั้ง หรือ 31 ปี ตั้งแต่ปี 2502 เป็นปีที่สิงคโปร์ ได้รับเอกราชจากอังกฤษ จนถึงปี 2533 ระหว่างนี้ เมื่อปี 2508 นายลี กวน ยู นำประเทศพ้นจากมาเลเซียและพัฒนาประเทศ เป็นเกาะที่มีขนาดเพียง 718 ตารางกิโลเมตรให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลก และ หนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จนได้รับการขนานนามว่า เป็นบิดาแห่งสิงคโปร์
แม้จะได้รับเสียงวิจารณ์ตลอดมาจากบรรดาองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและนโยบายควบคุมสื่ออย่างเคร่งครัด แต่นายลี กวน ยู ยืนยันมาตลอดว่าเป็นมาตรการที่ทำให้สิงคโปร์ เจริญรุ่งเรือง มี”มาตรฐานสูง”ในทุกด้าน ทำให้การบริหารจัดการของรัฐบาล เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การเมืองของประเทศ มีระดับการทุจริตที่ต่ำ ประชาชนไม่ต้องจ่ายภาษีแพง เป็นประเทศที่ดึงดูดใจนักลงทุน ด้านการศึกษาที่มีมาตรฐาน ความสะอาดของบ้านเมืองรวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจนถึงปัจจุบัน
เครดิต จากสำนักพิมพ์แนวหน้า
