หนุ่มไทยในออสเตรเลียโดนคนร้ายดักตีท้ายทอย อาการสาหัส หลังเกิดทะเลาะวิวาทกับคนในผับและอาจเป็นคนไทยด้วยกันเอง ด้านกงสุลใหญ่ไทย ในซิดนีย์ เผยหนุ่มเคราะห์ร้าย เป็นชาวจังหวัดพะเยา ขณะนี้อยู่ในห้องไอซียู พร้อมวอนผู้ทราบเบาะแสคนร้ายรีบแจ้งข้อมูลมายังสถานกงสุล
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ประจำประเทศออสเตรเลีย รายงาน นายธีรเทพ พรหมวงศ์ศานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เกิดเหตุ นายอภิชัย หรือไมค์ อำขำ อายุ 26 ปี ชายชาวจังหวัดพะเยา ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณถนน George ใกล้กับถนน Goulburn ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
นายธีรเทพ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียเบื้องต้นระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอภิชัยได้ไปเที่ยว ที่ผับมิสเตอร์บี ใกล้ไทยทาวน์ และดื่มจนมีอาการมึนเมา ก่อนจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนในผับ จากนั้นเมื่อนายอภิชัยออกมาจากผับดังกล่าว และเดินมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายประมาณ 4-5 คน เข้ามารุมทำร้ายและตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณท้ายทอยจนสลบ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูโรงพยาบาล Royal Prince Alfred และยังไม่รู้สึกตัว
นายธีรเทพ กล่าวต่อไปว่า ตำรวจออสเตรเลียสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า นายอภิชัยน่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนไทยด้วยกันเอง แต่ขณะเดียวกัน จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า น่าจะมีชาวต่างชาติอยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี สถานกงสุลใหญ่ได้ติดต่อกับญาติผู้เสียหายที่เมืองไทยแล้ว และกำลังประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ สถานกงสุลใหญ่พร้อมจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากทางญาติผู้ได้รับบาดเจ็บต้องการให้ช่วยในเรื่องใด" กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ กล่าว
จากนั้น กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ กล่าวอีกว่า ขอให้ญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเพื่อนๆ ที่อยู่ที่ซิดนีย์ เข้ามาให้ข้อมูลกับสถานกงสุลใหญ่ หรือโทรศัพท์เข้ามาให้ข้อมูลก็ได้ หากใครมีเบาะแสของคนร้าย หรือทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมทั้งหากต้องการให้สถานกงสุลใหญ่เข้าไปช่วยเหลือในเรื่องใด จะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทันที พร้อมทั้งฝากเตือนคนไทยในซิดนีย์ให้ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง อย่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน หากดื่มสุราจนมึนเมาก็ขอให้รีบกลับบ้าน พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกัน และดูแลตัวเองให้ดี
เครดิตจาก สำน้กข่าวไทยรัฐ