จากรายงานในวันที่ 8 พ.ค. ได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์ทางด้านพยากรณ์อากาศได้กล่าวไว้ว่า โลกของเรากำลังเข้าสู่สภาวะแห้งแล้งครั้งใหญ่ ซึ่งทั้งนี้ส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ และทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิด ไฟป่าและการขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศถึงเหตุการณ์เอลนีโญที่จะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 12 พ.ค. ที่กำลังจะถึงนี้
ตามที่สำนักพยากรณ์สภาพภูมิอากาศ ได้บันทึกไว้ว่า มีความผิดปกติของอุณหภูมิในพื้นผิวน้ำทะเลในภาคกลางและภาคตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกที่สูงขึ้นมากกว่า 1 องศา ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่เคยปรากฎให้เห็นนับตั้งแต่ปี 1991
โดยออสเตรเลียได้จัดระบบเกณฑ์กำหนดเอลนิโญไว้ที่หากความอุ่นพื้นผิวทะเลมากกว่า 0.8 องศาของค่าอุณหภูมิเฉลี่ย ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเอลนิโญจะเกิดขึ้น
ดร. Agus Santoso ผู้เชี่ยวชาญด้านแบบจำลองเอลนิโญของศูนญ์วิจัยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงแห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ชี้ให้เห็นถึงแผนที่อากาศ พบว่ามันคล้ายกับปรากฎการณ์เอลนิโญที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งในอดีต
เขากล่าวว่าในปีที่เกิดเอลนิโญครั้งใหญ่ ลมสินค้าตะวันออกจะหยุดนิ่งหรือแม้กระทั่งพัดย้อนกลับในช่วงฤดูหนาวหรือหลังจากนั้น โดยจะนำเอาเมฆฝนออกจากพื้นทวีปออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปตกกลางมหาสมุทร ผลของมันจะทำให้มีความแห้งแล้งเกิดขึ้น
ดร. Santoso กล่าวว่า จากการศึกษาถึงปรากฎการเอลนิโญ 12 ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นบนโลกย้อนหลังไปถึงปี 1905 พบว่าปริมาณฝนตกได้ลดลงในช่วงฤดูหนาวและใบไม้ผลิ (ของออสเตรเลีย คือเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน) พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักก็คือรัฐน.ซ.ว.และทางใต้ของรัฐควีนสแลนด์ ในขณะที่ส่วนอื่น ๆ ทางภาคตะวันออกของประเทศก็มีปริมาณฝนตกน้อยลงเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก เวปจิงโจ้นิวส์ และเวป smh