ออสเตรเลียเตรียมส่งฝูงบินทิ้งระเบิดตระกูล F ซูเปอร์ฮอร์เน็ต (super hornet fighter bomber) เข้าไปในประเทศซีเรียภายในไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากคณะรัฐมนตรีเตรียมขยายการปฏิบัติการณ์ทหารอากาศออสเตรเลีย (RAAF) ในตะวันออกกลางออกนอกเขตแดนอิรักเป็นครั้งแรก นาย Tony Abbott นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เขาได้กำหนดแนวปฏิบัติการนอกเขตแดนอิรักว่า ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการโจมที่ที่ได้รับมอบหมายจากกองกำลังร่วมฝ่ายพันธมิตร
เครื่องบินทิ้งระเบิด 18F ซูเปอร์ฮอร์เน็ต ภาพจากกองทัพอากาศออสเตรเลีย
แต่รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลยังต้องการข้อมูลมากกว่านี้ อย่างเช่นออสเตรเลียจะตอบสนองอย่างไรในกรณีที่เครื่องบินถูกยิงตกและนักบินถูกจับเป็นเชลย รวมถึงความเป็นไปได้ในภาระกิจช่วยชีวิตในพื้นที่ที่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังก่อการร้ายรัฐอิสลาม (IS หรือ ISIL หรือ Daesh) ในปีนี้กองกำลังก่อการร้ายรัฐอิสลามได้จับกุมนาย Mu’ath al-Kaseasbeh นักบินของประเทศจอร์แดน จากนั้นจึงทำเทปวิดีโอเผยแพร่ทั่วโลกด้วยการเผาเขาทั้งเป็นในกรงขัง แล้วใช้รถแทรกเตอร์ดันดินทำลายกรงขังที่มีร่างของเขาอยู่ข้างใน
นาย Kevin Andrew ร.มว.กลาโหมกล่าวว่า เขาได้เตรียมรายละเอียดเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ (NSC) ในวันอังคารที่ 8 กันยายน เพื่อชี้แจงถึงวิธีที่ออสเตรเลียและพันธมิตรสนองตอบหากเครื่องบินของกองทัพอากาศออสเตรเลียถูกยิงตกในดินแดนของซีเรีย ออสเตรเลียมีข้อตกลงระหว่างกันแล้วในกรณีที่เครื่องบินถูกยิงตกในอิรัก แต่จะไม่ขอชี้แจงรายละเอียดปลีกย่อยเนื่องจากเหตุผลของการปฏิบัติภาระกิจที่ละเอียดอ่อน
เขากล่าวว่า ข้อมูลที่สามารถเปิดเผยได้ก็คือมีหน่วยกล้าตายเฉพาะกิจในการติดตามค้นหาและช่วยชีวิตโดยกองกำลังของสหรัฐและพันธมิตรคอยทำการช่วยเหลือ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนาย Abbott อ้างถึงกรณีเชิงเหตุผลที่ต้องขยายพื้นที่การปฏิบัติการของกองกำลังทหารออสเตรเลียในตะวันออกกลาง
เขากล่าวว่ากองกำลังก่อการร้ายรัฐอิสลามยังคงตั้งเป้าหมายที่จะยึดครองซีเรียและอิรัก หนึ่งในความแข็งแกร่งของพวกเขาก็คือ การเคลื่อนย้ายกองกำลัง อีกทั้งพื้นที่ที่ฝ่าย Daesh ยึดครองในซีเรียได้สนับสนุนการสู้รบให้กับฝ่ายก่อการร้ายในพื้นที่ระหว่างชายแดนและแนวรบในอิรัก ทำให้ฝ่ายสัมพันธ์มิตรจำเป็นต้องมีระบบการส่งกำลังบำรุงรวมที่ดี เพื่อทำลายจุดแข็งของพวกเขา ทำให้ออสเตรเลียจำเป็นต้องขยายการสู้รบทางอากาศเข้าไปในซีเรีย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ออสเตรเลียยังขอคำแนะนำในเรื่องของความชอบทางกฎหมายในการเข้าไปในน่านฟ้าของซีเรีย ซึ่งต่างจากข้อแนะนำทางกฎหมายที่สหรัฐได้รับในการส่งกำลังเข้าไปในซีเรีย
ที่มา : jingjonews