พื้นที่ทางตะวันตกของนครซิดนีย์ถูกมองว่าจะเป็นที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้ขอลี้ภัยชาวซีเรียบนพื้นฐานมนุษยธรรม 7,000 คนจากทั้งหมด 12,000 คนตามตัวเลขที่ออสเตรเลียเสนอไว้กับองค์การสหประชาชาติ และเป็นที่เชื่อว่าจะมีญาติของผู้ลี้ภัยตามมาอีกเท่าตัว เหมือนอย่างเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ออสเตรเลียรับชาวจีนเข้าอยู่อาศัย 35,000 คน และต่อมามีญาติเข้ามาอยู่อาศัยถาวรภายใต้วีซ่าเข้ามาสมทบกับครอบครัวรวมเป็นกว่า 80,000 คน
นักเรียนไฮสกูลของโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่าน Cabramatta เขตเทศบาล Fairfield มองดูแล้วแทบจะหาคนเชื้อสายคอเคเชี่ยนหรือลูกครึ่งได้น้อยมาก (ภาพชั่วคราวจาก the Telegraph)
กระทรวงบริการสังคมยืนยันว่า นครซิดนีย์ยังคงเป็นเมืองแห่งความโอบอ้อมอารีพร้อมกับมีขีดความสามารถในการรับผู้เข้ามาตั้งหลักแหล่ง ในอัตรา 60% ของโครงการรับผู้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศ โดยคาดว่าพื้นที่ที่ผู้อพยพชาวซีเรียจะเข้ามาตั้งหลักแหล่งก็คือพื้นที่ในเขตเทศบาล Fairfield และ Liverpool ทางด้านนาย Mike Baird นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธที่จะรับผู้ขอลี้ภัยจากซีเรียจำนวน 7,000 คน
ในปีที่ผ่านมาออสเตรเลียรับผู้ขอลี้ภัยจากซีเรียจำนวน 2,252 คน โดยซิดนีย์รับเอาไว้ 1,380 คน, เมลเบิร์น 473 คน, เพิร์ท 52 คน, แอดิเลด 46 คน, บริสเบนและโกลด์โคสต์ 24 คนและแคนเบอร์ร่า 1 คน แล้วยังมี Wollongong ของรัฐน.ซ.ว.รับในจำนวนถึง 276 คน สำหรับจำนวนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในซิดนีย์ 1,380 คน ในจำนวนนี้ 1,035 คนได้เข้ามาตั้งหลักแหล่งในเขตเทศบาล Fairfield และ Liverpool ซึ่งเชื่อว่าผู้ขอลี้ภัยกลุ่มใหม่จะยังคงต้องการอพยพมาอยู่รวมกันในย่านที่มีคนเชื้อชาติเดียวกันเข้ามาตั้งหลักแหล่งอยู่ก่อนหน้านี้ (หมายเหตุ Fairfield โดยเฉพาะที่ย่าน Cabramatta ยังเป็นที่อยู่หนาแน่นของคนเชื้อสายจีนพูดแต้จิ๋วและจากเวียดนาม, ลาว, ไทย และกัมพูชา)
นาย Baird กล่าวว่าตามข้อตกลงเดิมที่เจรจาไว้กับนาย Tony Abbott ในขณะเป็นนายกรัฐมนตรีว่ารัฐน.ซ.ว.จะรับชาวซีเรียเข้ามาอยู่อาศัย 4,000 คน อย่างไรก็ตามกระทรวงบริการชุมชนเห็นว่าซิดนีย์มีขีดความสามารถและพร้อมที่จะรับผู้อพยพจำนวน 7,000 คน การรับปากรับผู้ขอลี้ภัยชาวซีเรียของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เป็นต้นว่านาย David Cameron แห่งสหราชอาณาจักรรับปากจะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 20,000 คนภายในปี 2020 ถือว่ารับผู้อพยพน้อยกว่าที่ออสเตรเลียรับปากว่าจะรับ 12,000 คนในแง่ของวิธีการ
นาย Peter Dutton ร.มว.การเข้าเมือง (ที่อาจจะหลุดจากตำแหน่งในเร็ววันนี้) กล่าวว่า ออสเตรเลียยังเปิดประตูให้ผู้ลี้ภัยนำสมาชิกในครอบครัวเข้ามาอยู่อาศัย ภายใต้วีซ่าเข้ามาสมทบกับครอบครัว (family reunion visa) ซึ่งโดยเฉลี่ยตกในอัตราไม่ต่ำกว่า 1 คนต่อ 1 ผู้ลี้ภัย
นาย Baird กล่าวว่า เขายังไม่ปฏิเสธโควต้ารับผู้ลี้ภัย 7,000 คนเสียทีเดียว แต่รัฐบาลน.ซ.ว.ก็เตรียมพร้อมหากจำเป็นต้องรับผู้อพยพเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีความกังวลในเรื่องการให้บริการตั้งถิ่นฐานทั้งด้านที่พักอาศัย, สาธารณสุข และสถานศึกษาของผู้ลี้ภัยเยาวชนและเด็ก ซึ่งถ้ารับตามข้อเสนอของรัฐบาลกลางก็จะต้องใช้งบประมาณถึง 700 ล้านเหรียญ
ที่มา : jingjonews
